ตัดสินใจอยู่นาน จะไปฉีดฟิลเลอร์ปากดีไหมคะซิสสส ก็เห็นสาว ๆ เขาฮิตไปฉีดกันขนาดนี้ รีวิวจากบิวตี้บล็อกเกอร์ก็เยอะแยะมากมาย มันบิ้วเรามาก ๆ เลยอ่ะค่ะ GoWabi ชวนสาว ๆ มาทำความรู้จักการอัพเลเวลความสวยด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปากให้มากขึ้นกันก่อนตัดสินใจไปจิ้ม เลือกฟิลเลอร์ยี่ห้ออะไร ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้กี่เดือน เจ็บอย่างที่เขาว่ากันไหม สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปฉีดฟิลเลอร์ปากมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลย
1.สิ่งที่ฉีดเข้าไปในริมฝีปากของเราคืออะไร?
สิ่งที่ฉีดเข้าไปเพื่อเติมเต็มริมฝีปากของเราให้ดูฟู ก็คือสารไฮยาลูโรนิคแอซิด (Hyaluronic acid) มีลักษณะคล้ายเจลเมื่อฉีดเข้าไปที่ริมฝีปากจะช่วยแก้ปัญหาร่องลึกที่ริมฝีปากและทำให้ปากดูอวบอิ่มเป็นรูปทรงที่เราต้องการ การฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในริมฝีปากมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง (ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐฯ, FDA) หากทำโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปจะสลายตัวไปไม่สะสมอยู่ในร่างกาย
2.คุยกับตัวเองให้ชัดอยากได้ปากทรงไหนได้เลือกฉีดฟิลเลอร์ปากให้ถูก
ตัดสินใจให้ชัดก่อนที่จะไปจิ้มปาก ลองหา Reference ในอินเตอร์เน็ตเยอะ ๆ ตามดาราที่เราชอบใน instagram รูปปากแบบไหนที่เราชอบกันแน่ ชอบแบบสายฝอปากอวบอิ่มเต็ม ๆ ทรงเกาหลีน่ารักตะมุตะมิ หรือปากกระจับดูมีเสน่ห์ ลองเซฟภาพไปหลาย ๆ แบบ เพื่อนำไปปรึกษากับคุณหมออีกทีนึง เพราะบางทีสิ่งที่เราชอบมันอาจจะไม่เหมาะกับใบหน้าของเราก็ได้ ก่อนไปตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปากควรตอบคำถามให้ได้ว่า
- รูปทรงปากแบบไหนที่เราต้องการ
- ต้องการให้เห็นขอบปากชัดเจนมากขึ้นใช่ไหม
- ต้องการให้ปากใหญ่ขึ้นขนาดไหน
ไปตามหาทรงปากฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกใจกันเพิ่มเติมได้จากลิงก์นี้เลย เลือกยังไง!? ไอเดียทรงปากฉีดฟิลเลอร์ แบบไหนเหมาะกับเรา
3.ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้กี่เดือน
แบรนด์ของฟิลเลอร์ฉีดปากเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อแพคเกจฉีดปาก เพราะแบรนด์แต่ละชนิดก็มีจุดเด่นและราคาที่แตกต่างกันไป แบรนด์ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ในประเทศไทยมีตามนี้เลยค่ะ
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ : Restylane
แบรนด์ต้นตำรับจากประเทศสวีเดนที่มีการใช้มาอย่างยาวนานในต่างประเทศ ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2003 โดยแบรนด์นี้ออกฟิลเลอร์มาหลายรุ่น รุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการฉีดฟิลเลอร์ปากโดยเฉพาะชื่อว่า Restylane Kysse สาร Kysse คือสารเติมเต็มในกลุ่ม Hyaluronic Acid ช่วยเพิ่มวอลลุ่มของปากให้ดูอวบอิ่ม ช่วยสร้างรูปปากให้ชัดเจน ลดร่องลึกบนริมฝีปากทำให้ปากดูเรียบเนียนและทำให้สีลิปสติกติดดีมากขึ้น ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติยาวนานถึง 12 เดือน
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ : Juvederm
แบรนด์ฟิลเลอร์นำเข้าจากประเทศสหรัฐฯ ได้รับการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา (FDA) ตั้งแต่ปี 2006 ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งที่สหรัฐฯและในประเทศไทย ฟิลเลอร์มีคุณภาพสูงมีส่วนผสมของยาชา Lidocaine ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเมื่อฉีดเข้าไปที่ริมฝีปาก แบรนด์นี้ทำฟิลเลอร์ออกมาหลายรุ่น รุ่นที่นิยมนำมาใช้ที่ปากคือ JUVÉDERM® VOLBELLA® XC และ JUVÉDERM® ULTRA XC
Juvederm เป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid โดยใช้เทคโนโลยี Hylacross และ Vycross ซึ่งเป็นเทคโลโลยีเฉพาะของทาง Juvederm ช่วยทำให้ฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะกับการฉีดบริเวณที่มีการขยับบ่อย ๆ เช่น ปากอย่างมาก ฉีดแล้วริมฝีปากฟูนั่นหมายความว่า Juvederm 1 ซีซี ทำให้ได้ผลลัพธ์ดูเหมือนฉีดเข้าไป 1.5 ซีซี นอกจากนั้น Juvederm ยังช่วยแก้ปัญหาร่องลึก ทำให้ปากดูเรียบเนียนน่าสัมผัส ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติยาวนานกว่า 12 เดือน
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ : Neuramis
ฟิลเลอร์คุณภาพดีงามจากประเทศเกาหลี แบรนด์นี้มีฟิลเลอร์รุ่นที่ผ่านการรับรอง อย. ของประเทศไทยก็คือรุ่น Neuramis deep ราคาสบายกระเป๋าเมื่อเทียบกับ Restylane และ Juvederm โดย Neuranis deep เป็นสารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid รุ่นนี้ไม่มีส่วนผสมของยาชาอย่าง Lidocaine เพราะฉะนั้นเวลาฉีดเข้าไปอาจมีความเจ็บปวดเล็กน้อย ฟิลเลอร์ตัวนี้ฉีดแล้วปากอวบอิ่มดูเป็นธรรมชาติเหมือนสาวเกาหลี มีความคงตัวสูง เนื้อเจลมีความแข็งปานเกลาง ช่วยเติมเต็มร่องปากและร่องลึกอื่น ๆ บนใบหน้า เติมขมับ เสริมคาง เติมร่องแก้มหรือร่องใต้ตาก็เหมาะ ผลลัพธ์ของนิวรามิสอยู่ได้อยาวนาน 6-8 เดือน
4.ฉีดฟิลเลอร์ปากกี่ซีซี
เป็นอีกคำถามที่จะต้องตอบให้ได้ก่อนที่จะซื้อแพคเก็จฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะฟิลเลอร์เพียงแค่ 1 cc มีราคาให้เลือกตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นแตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ หากเราจะตอบคำถามให้ได้ว่าจะใช้ฟิลเลอร์กี่ซีซีนั้น ควรจะตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า
- ตั้งใจจะไปฉีดฟิลเลอร์ปากเพียงอย่างเดียวใช่ไหม? เพราะหากเราอยากแก้ปัญหาร่องลึกในบริเวณอื่นด้วย 1 ซีซีอาจจะไม่เพียงพอ
- ทรงปากที่เราเลือก หากชอบสายฝอ ปากบึน ๆ อวบอิ่ม อาจต้องใช้ 1-2 ซีซี
- ยี่ห้อที่เราเลือกคือยี่ห้ออะไร ความฟูของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อไม่เหมือนกัน บางยี่ห้อฉีดไป 1 ซีซี แต่ให้ความรู้สึกฟูเหมือนกับฉีดไป 1.5 ซีซี ในจุดนี้แนะนำว่าให้ลองถามกับทางร้านที่จะไปฉีดดูก่อนว่าใช้แบรนด์อะไร รุ่นไหน คุณสมบัติเป็นอย่างไร เพียงเท่านี้ก็พอจะบอกได้คร่าว ๆ แล้วค่ะว่า 1 ซีซีนั้นจะเพียงพอต่อความต้องการของเราหรือเปล่า
- งบประมาณในการฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาฟิลเลอร์แต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกันค่อนข้างสูง Restylane และ Juvederm ราคาต่อซีซีเริ่มต้นที่ 10,000 บาทขึ้นไป Neuramis ราคาต่อซีซีเริ่มต้นที่หลักพัน
5.ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม มีขั้นตอนอย่างไร
การฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นหัตถการที่ค่อนข้างเจ็บปวด เพราะคุณหมอจะใช้เข็มจิ้มเข้าไปที่บริเวณริมฝีปาก บริเวณนี้จะมีความเซนซิทีฟค่อนข้างสูงเลยแหละค่ะ ความเจ็บปวดจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับวิธีการวางยาชาของคุณหมอ และแบรนด์ที่เราเลือก (บางแบรนด์มีส่วนผสมของยาชาด้วยก็จะทำให้เจ็บน้อยลง) วิธีการวางยาชาเฉพาะที่ก่อนฉีดฟิลเลอร์มีอยู่ 2 วิธีก็คือ 1.การทายาชา และ 2.การฉีดยาชา
จากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียน การทายาชาใช้เวลานาน 45-60 นาทีกว่าจะออกฤทธิ์ และไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่เลยค่ะ😂 ไม่ว่าจะเป็นการทายาชาก่อนทำเลเซอร์หรือการฉีดฟิลเลอร์ก็ยังเจ็บอยู่ดี การใช้ยาชาแบบฉีดนั้นแน่นอนกว่าค่ะ เพราะชาจริง ๆ เวลาทำหัตถการต่าง ๆ จะเจ็บปวดน้อยกว่า ย้ำอีกครั้งนะคะว่านี่เป็นประสบการณ์ส่วนตัวจากผู้เขียนเพียงคนเดียวเท่านั้น
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปากมีขั้นตอนไม่ยุ่งยากเลยค่ะ ก่อนอื่นต้องคุยกับหมอให้เรียบร้อยก่อนว่าทรงที่เราเลือกมา สามารถทำได้ไหม ทำแล้วจะเหมาะกับหน้าหรือเปล่า ซึ่งในส่วนนี้คุณหมอที่ผ่านการจิ้มปากมาแล้วหลายร้อยครั้งจะสามารถให้คำแนะนำได้ดีที่สุดค่ะ ส่วนขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์มีดังนี้ค่ะ
- ทำความสะอาดใบหน้า
- ทายาชาหรือฉีดยาชา
- ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ หากเป็นร้านที่มีมาตรฐานคุณหมอจะแกะกล่องให้ดู โชว์ล็อตการผลิต บนกล่องบางยี่ห้อจะมี QR Code สามารถสแกนเพื่อตรวจสอบผลิตภัณฑ์ได้ค่ะว่าเป็นของแท้หรือเปล่า
- เมื่อคุณหมอตรวจเช็คว่ายาชาทำงานดีแล้วก็เริ่มขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ตามรูปทรงที่เราต้องการ ขณะที่ฉีดจะเห็นผลทันที คุณหมอจะค่อย ๆ เติมไปทีละจุดจนกว่าเราจะพอใจ
- ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงค่ะ แต่ถ้าหากใช้ยาชาแบบทาอาจจะต้องเผื่อเวลารอยาชาออกฤทธิ์ 45-60 นาทีด้วยนะคะ
6.ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
อาการปกติที่พบได้ทันทีหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากคืออาการบวม ซึ่งสามารถบรรเทาได้โดยการประคบเย็นโดยใช้เจลประคบเย็นหรือน้ำแข็งก้อนห่อด้วยผ้าบางและประคบอย่างเบามืออย่ากดแรงมากจนเกินไปนะคะเพราะฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปยังไม่เข้าที่ดี
อาจพบอาการช้ำได้ในบริเวณที่ฉีดซึ่งเป็นเรื่องปกติเมื่อเราโดนเข็มจิ้มเข้าไปในผิวหนัง อาการดังกล่าวควรจะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน อาการข้างเคียงเล็กน้อยอื่น ๆ ที่พบได้หลังจากฉีดฟิลเลอร์ได้แก่ ความเจ็บปวด แดง ผื่น เป็นต้น
แต่ถ้าหากเพื่อน ๆ มีอาการข้างเคียงดังต่อไปนี้ควรกลับไปหาคุณหมอโดยด่วน นั่นก็คือ
- อาการบวมช้ำอย่างรุนแรงมากกว่า 1 สัปดาห์ ถึงแม้จะพบไม่มากแต่คนที่โชคร้ายอาจเกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ได้ค่ะ
- ผิวบริเวณที่ฉีดเริ่มเปลี่ยนสี เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดจากการฉีดฟิลเลอร์รอบ ๆ หลอดเลือดหรือร้ายแรงกว่านั้นก็คือการฉีดเข้าไปภายในหลอดเลือด ทำให้เลือดไม่มาเลี้ยงผิวหนังบริเวณนั้น สังเกตอาการได้โดย มีอาการเจ็บปวดมาก ๆ หลังจากฉีดฟิลเลอร์ ผิวเปลี่ยนเป็นสีขาว ด่าง ๆ
- เป็นก้อนหลังฉีดฟิลเลอร์ หากฉีดด้วยฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic acid แล้วพบการเป็นก้อน โดยส่วนมากระยะเวลาที่ผ่านไปและการนวดจะสามารถช่วยได้ แต่ถ้าหากไม่โอเคจริง ๆ สามารถกลับไปให้คุณหมอให้ฉีดยาสลายฟิลเลอร์ (Hyarulonidase) ได้
- ทำให้โรคเริมที่ปากกำเริบ หากเราเคยเป็นโรคเริมมาก่อน herpes simplex virus (HSV-1) ควรแจ้งคุณหมอก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะการฉีดฟิลเลอร์ที่ปากอาจทำให้โรคนี้กำเริบได้ แต่สาว ๆ อย่าเพิ่งกลัวไปนะคะ การฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้ทำให้เป็นโรคเริม แต่การฉีดฟิลเลอร์จะเป็นตัวกระตุ้นให้โรคนี้กำเริบได้ค่ะ ซึ่งผลข้างเคียงนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยเท่าไหร่
7.ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วไม่ชอบเลย แก้ไขอะไรได้ไหม
เป็นความโชคดีของสาว ๆ เมื่อเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ทำมาจาก Hyaluronic Acid (ซึ่งทั้ง 3 ยี่ห้อด้านบนที่แนะนำมาเป็น Hyaluronic Acid ทั้งหมดเลยค่ะ) หากไม่ชอบทรงปากใหม่เลยสามารถสลายฟิลเลอร์ได้ด้วยการฉีดสาร Hyarulonidase เพื่อสลายฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid ซึ่งจะเห็นผลทันทีหลังฉีดและเห็นผลชัดสุดหลังจากผ่านไป 2 วัน
แล้วถ้าฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ไหมคะ? ตอบตรงนี้เลยค่ะว่าไม่ได้ ต้องใช้วิธีการขูดออกและหลาย ๆ ครั้งไม่สามารถขูดออกได้หมดด้วย ก่อนจะฉีดอะไรเข้าไปในร่างกายควรพิจารณาให้ดี คิดให้ถี่ถ้วนหลาย ๆ รอบเลยนะคะ
8.วิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- งดรับประทานของร้อนจัดและกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อนสูงในร่างกายเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ความร้อนจะทำให้อาการบวมมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก 24-48 ชั่วโมง การเพิ่มขึ้นของอัตราการเต้นของหัวใจจะเพิ่มเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ส่งผลให้อาการบวมหรือรอยช้ำหายช้าลง การออกกำลังกายด้วยการเดินช้า ๆ หรือทำกิจกรรมเบา ๆ สามารถทำได้ตามปกติ
- ดื่มน้ำสะอาดเยอะ ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีความเค็มสูง เพราะอาจทำให้อาการบวมแย่ลง
- หากอาการเจ็บปวดมีมากจนทนไม่ไหว ให้สอบถามคุณหมอที่ดูแลเกี่ยวกับยาลดปวดที่สามารถทานได้
- นอนหมอนสูงเพื่อช่วยลดอาการบวม ไม่ควรนอนคว่ำหน้าอย่างเด็ดขาด
- งดทาลิป 24 ชั่วโมงหลังจากฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการนั่งเครื่องบินอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ความกดอากาศสามารถทำให้อาการบวมแย่ลงได้
ดูแลปากหลังฉีดฟิลเลอร์และคำถามพบบ่อยอ่านเพิ่มได้จากที่นี่เลย 10 เคล็ดลับดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก และตอบคำถามที่พบบ่อย
9.ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วจะสวยทันตาเห็นเลยไหมคะซิส
ถ้าเปรียบเทียบการฉีดฟิลเลอร์ปากก็เหมือนกับการทำบุญในยุค 5G เลยแหละค่ะ เพราะการฉีดฟิลเลอร์ปากจะเห็นผลทันทีหลังฉีด รวดเร็ว สวยทันตา ไม่ต้องรอชาติหน้า หลังจากนั้นเมื่ออาการบวมลดลง ปากจะมีขนาดเล็กลงเล็กน้อยและใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์กว่าฟิลเลอร์จะเข้าที่
เมื่อรู้อย่างงี้แล้วจะไปฉีดฟิลเลอร์ปากดีเลยไหมคะซิส พี่สาวอยากบอกว่าถ้าน้องสาวไม่กลัวเข็ม ไม่กลัวเจ็บ เรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหาและมั่นใจว่าร้านที่เลือกใช้บริการมีคุณภาพมากพอ ก็จัดไปเลยสิคะ การฉีดฟิลเลอร์โดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญกับคลินิกที่มีมาตรฐานนั้นปลอดภัยมาก เมื่อเลือกฟิลเลอร์ชนิด Hyaluronic Acid หากไม่ถูกใจทรงก็ฉีดสลายฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัย ลุยค่ะ ใครฉีดมาแล้วอยากอวดปากสวย ๆ ให้พี่สาวดู อวดได้ในคอมเม้นต์นี้เลยน้า
หากสาวๆสนใจบริการจาก คลินิกเสริมความงาม ชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น บริการ ฉีดวิตามินผิว ฉีดโบท็อก ฉีดฟิลเลอร์ เลเซอร์หลุมสิว ไฮฟู่ เลือกดูโปรโมชั่นที่ GoWabi ได้เลยค่า!
อ้างอิง
https://www.healthline.com/health/how-long-do-lip-fillers-last#type
