อัปเดตล่าสุด: 27 ธันวาคม 2565

นโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับหุ้นส่วนทางธุรกิจ

บริษัท โกวาบิ (ไทยแลนด์) จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจของบริษัท โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับหุ้นส่วนทางธุรกิจฉบับนี้ (“นโยบายความเป็นส่วนตัว”) อธิบายวิธีการที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร บุคคลผู้ได้รับมอบอำนาจ กรรมการ ผู้ถือหุ้น ของหุ้นส่วนทางธุรกิจและผู้ติดต่ออื่น ๆ ของหุ้นส่วนทางธุรกิจ (เรียกรวมกัน ว่า “ท่าน”) และแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับสิทธิที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ หุ้นส่วนทางธุรกิจ ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“หุ้นส่วนทางธุรกิจ”) รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ร้านค้าบุคคลธรรมดา และร้านค้าองค์กร/ นิติบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจากบริษัทมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับท่านในปัจจุบัน หรืออาจมีความสัมพันธ์กับท่านเพื่อธุรกิจในอนาคต หรือเนื่องจากบริษัทมีความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ท่านทำงานให้ ดำเนินการแทน หรือเป็นตัวแทน

  1. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้าง
  2. “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับท่านที่สามารถระบุตัวตนท่านได้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม (ทั้งนี้ ไม่รวมถึงข้อมูลของบุคคลที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว) โดยบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ ตามที่ ระบุด้านล่าง

    ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้า อายุ เพศ รูปถ่าย วิดิโอ พิกัดทาง ภูมิศาสตร์ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ ข้อมูลจากเอกสารราชการ (เช่น หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร) ลายมือชื่อ (รวมถึงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์) ข้อมูลบัญชีธนาคารและ การชำระเงิน (เช่น ชื่อเจ้าของบัญชี ธนาคารที่เปิดบัญชี ประเภทบัญชี และหมายเลขบัญชีธนาคาร) และข้อมูลระบุตัวบุคคลอื่น (เช่น ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ไลน์)

    ข้อมูลที่อยู่ติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ ที่อยู่อีเมล และข้อมูลอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน

    ข้อมูลอื่น ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับหุ้นส่วนทางธุรกิจ เช่น ข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัทตามที่ปรากฎในสัญญา แบบฟอร์ม ข้อมูลทางธุรกรรมที่ท่านทำกับบริษัท

  3. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
  4. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากหลายๆช่องทางซึ่งรวมถึงช่องทางดังต่อไปนี้

    • จากท่านโดยตรง (เช่น เมื่อท่านทำธุรกิจกับบริษัท หรือลงนามในข้อกำหนดและเงื่อนไขทั่วไปสำหรับความร่วมมือของหุ้นส่วน รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของบริษัท ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทหรือแอปพลิเคชันทางโทรศัพท์มือถือ การติดต่อสื่อสารทางอีเมล โทรศัพท์ แบบสอบถาม นามบัตร ไปรษณีย์ ระหว่างการประชุมและงานกิจกรรมต่าง ๆ หรือเมื่อบริษัทไปพบท่าน

    • จากหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ท่านทำงานให้ ดำเนินการแทน หรือเป็นตัวแทน

    • จากแหล่งข้อมูลในระบบ ระบบไดรฟ์กลาง/ฐานข้อมูลกลางของบริษัท และ/หรือ ไฟล์อิเล็กทรอนิกส์

  5. บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
  6. บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่าน โดยอาศัยฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ฐานการปฏิบัติตามสัญญา ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย ฐานความยินยอม หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

    • การติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ เช่น การติดต่อสื่อสารกับหุ้นส่วนทางธุรกิจเกี่ยวกับบริการต่าง ๆ ของบริษัท หรือหุ้นส่วนทางธุรกิจ (เช่น การติดต่อสื่อสารผ่านการส่งเอกสาร การตอบคำถาม การตอบกลับคำขอหรือการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการ)

    • การเลือกหุ้นส่วนทางธุรกิจ เช่น การประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติของท่านและหุ้นส่วนทางธุรกิจ การยืนยันตัวตนของท่านและสถานะการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ การตรวจสอบสถานะกิจการ หรือการตรวจสอบประวัติในรูปแบบอื่น ๆ หรือการประเมินความเสี่ยงสำหรับท่านและหุ้นส่วนทางธุรกิจ (รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย) และ การเข้าทำสัญญากับท่านหรือหุ้นส่วนทางธุรกิจ

    • การจัดการข้อมูลของหุ้นส่วนทางธุรกิจ เช่น การสร้างบัญชีหุ้นส่วนทางธุรกิจ การบันทึกข้อมูลลงในระบบ การรักษาและการปรับปรุงรายการ/สารบบของหุ้นส่วนทางธุรกิจ (ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน) การเก็บและบริหารจัดการสัญญาและเอกสารที่เกี่ยวข้องที่อาจมีชื่อของท่านอยู่

    • การบริหารจัดการความสัมพันธ์ เช่น การทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชี การตรวจสอบบัญชี การออกใบเรียกเก็บเงิน และการเก็บเงิน การให้บริการสนับสนุน

    • ระบบและการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและฝ่ายช่วยเหลือ บริหารจัดการการเข้าถึงระบบใด ๆ ที่บริษัทได้มอบสิทธิในการเข้าถึงให้แก่ท่าน การลบบัญชีที่ไม่มีการใช้งาน

    • การตรวจสอบดูแลระบบและความมั่นคงปลอดภัย เช่น การยืนยันตัวตนและการควบคุมการเข้าถึงตามที่เกี่ยวข้อง การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมถึงการจัดการความเสี่ยงและการป้องกันการฉ้อโกง

    • การบริหารจัดการและการสื่อสารระหว่างหน่วยงานภายในองค์กร รวมถึงการตรวจสอบ การรายงาน การส่งหรือจัดการเอกสาร การประมวลผลข้อมูล การควบคุม หรือการจัดการความเสี่ยง การวิเคราะห์และการวางแผน ทางสถิติและแนวโน้มต่าง ๆ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงหรือเกี่ยวข้องกัน

    • วัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น แจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับข่าวสารและข้อมูลเผยแพร่ที่อาจมีประโยชน์ รวมถึงกิจกรรม เสนอบริการใหม่ๆ เจรจาต่อรองราคาบริการ และทำผลการสำรวจ

    หากบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด หรือเพื่อเข้าทำหรือปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทมีกับท่าน แต่ท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทเมื่อบริษัทร้องขอ บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตามที่ระบุข้างต้นได้

    ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านในการดำเนินกิจกรรมที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านในเรื่องดังกล่าวเป็นรายกรณีไป

  7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  8. บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ให้บริการจากภายนอกที่บริษัทว่าจ้างมา (เช่น ผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูล และที่ปรึกษา) รวมไปถึงผู้ให้บริการช่วงของบริษัท และตัวแทนผู้ให้บริการ ตัวแทนของบริษัท ที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญภายในหรือภายนอกของบริษัท ผู้รับโอนหรือผู้สืบสิทธิในส่วนใด ๆ ของบริษัท เนื่องจากการซื้อหรือขายที่เกิดขึ้นจริงหรือการเสนอซื้อหรือขายบริษัททั้งหมดหรือแต่บางส่วน และบุคคลอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้ง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นตามข้อ 3.

    บริษัทอาจมีสื่อโฆษณาซึ่งเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นๆ แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ ช่องทางการสื่อสารทางออนไลน์ ซึ่งแพลตฟอร์มต่างๆ ดังกล่าวอาจมีข้อกำหนดในการใช้งานหรือนโยบายเกี่ยวกับการใช้ งาน และ นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งแตกต่างไปจากนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและข้อกำหนดในการใช้งานของบริษัท บริษัทขอแนะนำให้ท่านทบทวนข้อกำหนดในการใช้งานและนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลบนแพลตฟอร์มข้างต้นด้วยตัวเอง ในบางกรณี บริษัทอาจจำเป็นต้องเปิดเผย หรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อการปฏิบัติตามหน้าที่ทางกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับ โดยบุคคลภายนอกเหล่านั้นอาจรวมถึงหน่วยงานของรัฐ ศาล หน่วยงานกำกับดูแล สถานทูตและกงศุล เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลภายนอกรายอื่นที่บริษัทเห็นว่าจำเป็นในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือตามระเบียบข้อบังคับ หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลภายนอก ความปลอดภัยส่วนตัวของบุคคล หรือเพื่อตรวจหา ป้องกัน หรือจัดการกับการฉ้อโกง หรือเพื่อการดำเนินการด้านความมั่นคงปลอดภัย หรือในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการ การขาย การซื้อ การร่วมลงทุน การโอนสิทธิ การเปลี่ยนแปลงเจ้าของกิจการ หรือการจำหน่ายกิจการ ทรัพย์สิน หรือหุ้น หรือการทำธุรกรรมที่คล้ายกัน ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับผู้รับโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่ของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่อเป็นการเคารพต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

  9. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
  10. บริษัทอาจต้องเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศซึ่งอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าประเทศไทย เช่น เมื่อบริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนแพลตฟอร์มคลาวด์หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย หรือเพื่อใช้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

    เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่ำกว่าประเทศไทย บริษัทจะดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนไปในระดับที่เพียงพอ หรือดำเนินการให้มั่นใจว่ากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้โอนข้อมูลได้ เช่น บริษัทอาจต้องได้รับคำยืนยันตามสัญญาจากบุคคลภายนอกที่มีสิทธิเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนว่าข้อมูลดังกล่าวจะได้รับ การคุ้มครองภายใต้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับประเทศไทย หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อมีการโอนไปยังต่างประเทศ โปรดติดต่อบริษัทตามรายละเอียดในหัวข้อ "ติดต่อบริษัท"

  11. บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด
  12. บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามอายุของสัญญา และ/หรือตลอดระยะเวลาที่บริษัทยังมีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการติดต่อหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามสมควร หรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปีนับแต่วันสิ้นสุดสัญญา

  13. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  14. ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและภายใต้กระบวนการจัดการสิทธิของบริษัทสิทธิ ท่านอาจมีสิทธิต่อไปนี้

    • ขอเข้าถึง ขอรับสำเนาของข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน

    • ขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

    • ขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้

    • ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของให้แก่ท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลนั้นไปยังองค์กรอื่น

    • คัดค้านไม่ให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

    • ถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ต้องอาศัยความยินยอมของท่านได้ทุกเมื่อ

    หากท่านต้องการใช้สิทธิใด ๆ ตามที่ระบุข้างต้น โปรดติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดในหัวข้อ "ติดต่อบริษัท" ทั้งนี้ อาจมีกรณีที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องจำกัดการใช้สิทธิใด ๆ ข้างต้น หรืออาจมีบางกรณีที่บริษัทสามารถปฏิเสธ คำขอของท่านได้ตามสมควรและโดยชอบ เช่น ในกรณีที่บริษัทปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล โดยหากบริษัทปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุดังกล่าว บริษัทจะแจ้งเหตุผลให้ท่านทราบ หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัทเป็นการละเมิดกฎหมาย ว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม หากท่านมีข้อร้องเรียนใด ๆ โปรดติดต่อบริษัทเป็นลำดับแรกก่อนที่ท่านจะติดต่อหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โอกาสบริษัทในการดำเนินการแก้ไขตามข้อร้องเรียนของท่านอย่างเหมาะสม

  15. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
  16. บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพ ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้ เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด บริษัทได้จัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทยังได้วางมาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดสิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ และหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้ หรือ การลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทยังได้วางมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  17. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
  18. บริษัทอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวหากมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอันเนื่องมาจากเหตุผลต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี หรือ การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย โดยการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อบริษัทเผยแพร่นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับแก้ไขบนเว็บไซด์ของบริษัท อย่างไรก็ตาม หากการแก้ไขดังกล่าวมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าตามความเหมาะสมก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีผลบังคับใช้

  19. ช่องทางการติดต่อบริษัท
  20. หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและกิจกรรมของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดด้านล่าง โดยบริษัทยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือท่าน ให้ข้อมูล ข้อเสนอแนะ และแก้ไขข้อร้องเรียนต่าง ๆ

    บริษัท โกวาบิ (ไทยแลนด์) จำกัด

    อาคารเมเจอร์ ทาวเวอร์ ทองหล่อ ชั้นที่ 7 ห้องเลขที่ 12, 141 ซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพมหานคร

    เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    อีเมล [email protected]

    หากท่านต้องการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โปรดกรอก แบบฟอร์มขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

  21. ช่องทางการติดต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ (Appropriate Authority)
  22. หากท่านต้องการรายงานเรื่องร้องเรียน หรือหากท่านรู้สึกว่าบริษัท ไม่ตอบข้อกังวลของท่านในลักษณะที่น่าพึงพอใจ ท่านสามารถติดต่อและ/หรือร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามรายละเอียดด้านล่าง

    ชื่อ: สำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ทำหน้าที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    ที่อยู่: ที่อยู่: 120 หมู่ 3 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคารบี) ชั้น 7 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

    ช่องทางการติดต่อ:
    อีเมล: [email protected]
    โทร: 02-141-6993, 02-142-1033

ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ (2019) GoWabi ยังคงดำเนินการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์เดิม ดูเพิ่ม
cartcheck ใส่ตะกร้าแล้ว!