Meko BFiLL Clinic @Exchange Tower (Asoke Branch)

สลายไขมันแก้ม เหนียง ตัวยานวัตกรรมใหม่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ช่วยสลายไขมัน กระชับผิวหน้า ไม่ทำให้หน้าหย่อนคล้อย

บริเวณที่ทำ

แก้ม หรือ เหนียง

เห็นผลเมื่อไหร่

1-2 สัปดาห์หลังทำ

ควรทำบ่อยขนาดไหน

ผลจะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล

แนะนำ! ให้ฉีดต่อเนื่อง 3 ครั้ง(ห่าง 2 สัปดาห์ครั้ง) ผลจะอยู่ได้นาน 2-4 เดือน

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะฉีดออก

- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด

-ใช้เวลาทำประมาน 10-15 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- หลังรักษาสามารถใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ โดยทาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูแรงๆ

- 1-2 ชั่วโมงแรกพยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น

- 3-4 ชั่วโมงแรกอย่านอนราบหรือนอนตะแคง

- สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

- 2 สัปดาห์แรกงด ทำทรีตเมนท์ นวดหน้า อบซาวหน้า ทำเลเซอร์

ผลข้างเคียง

หลังการฉีดอาจเกิดรอยฟกช้ำของเข็มบ้างเล็กน้อย แต่รอยจะจางหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

Thermage Korea คืออะไร?

เทคโนโลยีใหม่จากเกาหลี โดยใช้เครื่อง Intragen ใช้หลักการทำงานแบบเดียวกับ Thermage คือใช้คลื่นความร้อน RF โดยพลังงานจะลงลึกถึงชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นฟูขึ้น ช่วยสลายไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันเยอะ และผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยปัญหาผิวที่ต้องการฟื้นฟู

*ผู้ที่ไม่สามารถรับบริการนี้ได้
- ลูกค้าที่มีโรคหัวใจ
- มีเหล็กดามตามร่างกาย เช่นเคยแขนหัก, ขาหัก

เห็นผลเมื่อไหร่

เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%

ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน

ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 3-4 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก

- ใช้เวลาทำประมาน 35 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง

หลังทำอาจมีอาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

*สงวนสิทธิ์การยิงจำนวนช็อต ตามวิจารณญาณการประเมินของแพทย์เท่านั้น เพื่อไม่ให้ส่งผลข้างเคียงที่อาจเกิดอันตรายต่อผู้รับบริการ*

โดยจะยิงจำนวนช็อตต่อบริเวณไม่เกินจำนวนดังต่อไปนี้:

- ใต้ตา 200 Shots
- ร่องแก้ม 200 Shots
- แก้ม+ร่องแก้ม ไม่เกิน 400 Shots
- กรอบหน้า+เหนียง ไม่เกิน 400 Shots
- ทั่วหน้า+เหนียง ไม่เกิน 500 Shots

โบท็อกซ์กราม หรือ ลิฟท์หน้า

โบท็อกซ์ คืออะไร?

โบท็อกซ์ botulinum To.xin จะช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว

ที่ Meko BFill เราใช้ โบท็อกซ์ ยี่ห้อ Aestox ซึ่งเป็นโบท็อกซ์อันดับ 1 นำเข้าจากเกาหลี

บริเวณที่จะทำ

สามารถเลือกได้ 1 บริเวณ กราม หรือ ลิฟท์กรอบหน้า ไม่จำกัดยูนิต ฉีดตามแพทย์ประเมิน

-โบท็อกซ์กราม จะฉีดบริเวณกล้ามเนื้อกราม เพื่อยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อกราม เมื่อกล้ามเนื้อกรามไม่สามารถทำงานได้ กล้ามเนื้อก็จะเล็กลง จึงส่งผลให้หน้าเรียวขึ้น

-โบท็อกซ์ลิฟท์หน้า จะฉีดบริเวณกรอบหน้าและใต้คาง เพื่อยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อคาง ส่งผลให้แก้มไม่ถูกกล้ามเนื้อดึงลง หน้าจะดูยกขึ้นและเห็นกรอบหน้าชัดขึ้น

เห็นผลเมื่อไหร่

ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ประมาณ 3-7 วัน หลังจากฉีด

จะเห็นผลสูงสุดใน 2 สัปดาห์

มีผลอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

หากรู้สึกว่ากล้ามเนื้อเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง ก็สามารถเข้ามาฉีดซ้ำได้เลย

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะฉีดออก

- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด

- ใช้เวลาฉีดประมาน 10-15 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา งดแอลกอฮอล์

- 1-2 วันก่อนการฉีด ให้หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ AHA และสครับหน้า

- 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด ให้หยุดการใช้ยาแก้ปวด NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ

- ถ้ามีประวัติโรคเริมบริเวณริวฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนการรักษา

วิธีดูแลหลังทำ

- หลังรักษาสามารถใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ โดยทาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูแรงๆ

- 1-2 ชั่วโมงแรกพยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น

- 3-4 ชั่วโมงแรกอย่านอนราบหรือนอนตะแคง

- สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

- 2 สัปดาห์แรกงด ทำทรีตเมนท์ นวดหน้า อบซาวหน้า ทำเลเซอร์

ผลข้างเคียง

หลังการฉีดอาจเกิดรอยฟกช้ำของเข็มบ้างเล็กน้อย แต่รอยจะจางหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

Oligio คือ
นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ใช้ในการยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีในการใช้
คลื่นวิทยุ Monopalar RF ที่ส่งพลังงานไปยังผิวทุกชั้นพัฒนามา
เพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิวชั้นลึก
ช่วยปรับรูปหน้า ให้เรียวกระชับได้รูป เห็นผลเร็วและผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานขึ้น ระบบความเย็นและระบบสั่นจะช่วยให้สบายผิวและลดความเจ็บขณะทำและไม่ทำให้ผิวเสียหลังยิงเสร็จ

Oligio ช่อยเรื่องอะไร
- ยกกระชับใบหน้า ลงลึกถึงชั้นไขมัน
- สลายไขมันส่วนเกิน ปรับรูปหน้าให้เรียว
- ลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
- กระชับรูขุมขน ผิวแน่นขึ้น
- ยกมุมปากตก ยกคิ้ว หนังตาตก

Oligio ควรทำบ่อยขนาดไหน

แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 4-6 เดือน ( ปีละ 2 ครั้ง )
Oligio ทำพร้อมกับ Thermage วันเดียวกันได้เลย
ถ้าหากมีแพลนจะทำกลุ่มเครื่องอื่นๆต่อ เช่น Ultra Former III / Hifu Hi Lift / Premium Hifu ต้องเว้นระยะห่างจากวันที่ทำ Oligio 2 สัปดาห์

แต่ถ้าหากทำ Oligio+Ultrafomer lll ในวันเดียวกัน --> ทำได้ 
แต่ให้เลี่ยงหัว Ultrafomer lll ที่ใช้หัวที่ลงในชั้นเดียวกันกับที่ทำ Oligio

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

*เข้ารับบริการได้เฉพาะวันจันทร์ พุธ พฤหัส เสาร์ และ อาทิตย์เท่านั้น*

Ultraformer III (อัลตร้าฟอร์มเมอร์ ทรี)
ผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก)ชั้น SMAS ทำให้เนื้อเยื้อถูกกระตุ้นสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ Ultraformer III ถูกพัฒนามาจาก HIFU รูปแบบเดิม ซึ่งจะแตกต่างด้วยเทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งคลื่นอัลตราซาวด์ลงไปสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่าเดิม สามารถปล่อยพลังงานลงไปใต้ผิวหนัง ระดับความลึกที่ 1.5 mm / 3 mm / 4.5 mm

เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น มีความปลอดภัยไม่กระทบต่อผิวหนัง ผิวหน้าดูกระชับอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม

* หัว 4.5 mm เป็นหัวที่ยิงพลังงานได้ลึกที่สุด โดยยิงลงได้ถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ชั้น SMAS ชั้นผ่าตัดดึงหน้า ชั้นนี้จะช่วยในเรื่องการยืดการหดตัวของผิวหน้า
* หัว 3.0 mm เป็นหัวยิงพลังงานที่ลึกในระดับรองลงมา โดยยิงลงได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ผิวชั้นนี้จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและจัดเซลล์อิลาสติน ทำให้ผิวดูแน่นกระชับขึ้น
* หัว 1.5 mm ยิงเก็บผิวชั้นตื้น ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจนผิวชั้นบน ลดการเกิดริ้วรอยตื้นๆที่หางตา ร่องแก้มตื้นๆ ใต้ตา มุมปาก และยังช่วยกระชับรูขุมขนด้วย

บริเวณที่จะทำ
สามารถเลือกบริเวณได้เลย 300 Shots

เห็นผลเมื่อไหร่
เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%
ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน
ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน
สามารถเข้ามาทำซ้ำได้ทุกๆ 4-6 เดือน

ขั้นตอนการทำ
- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก
- ใช้เวลาทำประมาน 25 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง
หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

* โปรโมทชั่นนี้ไม่รวมค่ายาชาหรือหัตถการอื่นเพิ่มเติม

Thermage Korea แก้ม + ร่องแก้ม ฟรี Hifu (Hi Lift) กรอบหน้า + เหนียง ให้บริการโดยผู้ช่วย

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

*เข้ารับบริการได้เฉพาะวันจันทร์ พุธ พฤหัส เสาร์ และ อาทิตย์เท่านั้น*

ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)

เข้ารับบริการได้เฉพาะวันจันทร์ พุธ พฤหัส เสาร์ และอาทิตย์เท่านั้น

Ultraformer III (อัลตร้าฟอร์มเมอร์ ทรี)
ผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก)ชั้น SMAS ทำให้เนื้อเยื้อถูกกระตุ้นสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ Ultraformer III ถูกพัฒนามาจาก HIFU รูปแบบเดิม ซึ่งจะแตกต่างด้วยเทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งคลื่นอัลตราซาวด์ลงไปสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่าเดิม สามารถปล่อยพลังงานลงไปใต้ผิวหนัง ระดับความลึกที่ 1.5 mm / 3 mm / 4.5 mm

เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น มีความปลอดภัยไม่กระทบต่อผิวหนัง ผิวหน้าดูกระชับอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม

* หัว 4.5 mm เป็นหัวที่ยิงพลังงานได้ลึกที่สุด โดยยิงลงได้ถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ชั้น SMAS ชั้นผ่าตัดดึงหน้า ชั้นนี้จะช่วยในเรื่องการยืดการหดตัวของผิวหน้า
* หัว 3.0 mm เป็นหัวยิงพลังงานที่ลึกในระดับรองลงมา โดยยิงลงได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ผิวชั้นนี้จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและจัดเซลล์อิลาสติน ทำให้ผิวดูแน่นกระชับขึ้น
* หัว 1.5 mm ยิงเก็บผิวชั้นตื้น ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจนผิวชั้นบน ลดการเกิดริ้วรอยตื้นๆที่หางตา ร่องแก้มตื้นๆ ใต้ตา มุมปาก และยังช่วยกระชับรูขุมขนด้วย

เห็นผลเมื่อไหร่
เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%
ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน
ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน
สามารถเข้ามาทำซ้ำได้ทุกๆ 4-6 เดือน

ขั้นตอนการทำ
- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก
- ใช้เวลาทำประมาน 25 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง
หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

* โปรโมทชั่นนี้ไม่รวมค่ายาชาหรือหัตถการอื่นเพิ่มเติม

Stem Cell หน้าสด เพิ่มความสว่าง ฉ่ำเงา หน้าใส ผิวฟูดิวอี้ ส่วนผสมตัวยาพิเศษ 9 ชนิด

Stem Cell สด 5 พันล้านเซล บำรุงลึกถึงเซล ตัวยา Hyaluronic Acid Growth Factors Amino Acid Minerals Peptide Coenzymes Glutathione Vitamins Retinol ตัวยาโมเลกุลเล็ก ดูดซึมง่าย

ช่วยปรับโครงสร้างให้ผิวแข็งแรงขึ้น ฟื้นฟูผิวให้ดูสุขภาพดี เห็นผลดีกว่า P.RP 100 เท่า ช่วยลดรอยสิว รอยดำ ฝ้า กระ สิวอักเสบ จากตัวยา Glutathione ช่วยริ้วรอยตื้นๆ กระตุ้นสร้างคอลลาเจนได้กว่าตัวยาทั่วไปถึง 3 เท่า ผิวมีความยืดหยุ่น เหมาะสำหรับคนฉีด Meso มาเยอะๆเเล้วไม่เห็นผล เเนะนำเป็นตัว Stem Cell สด ตัวนี้ได้เลย ไม่แสบ ไม่บวม 

บริเวณที่จะทำ

ฉีดเข้าผิวหนังชั้นตื้นๆ ทั่วใบหน้า 

เห็นผลเมื่อไหร่

เห็นผลภายใน 5-7 วัน และอยู่ได้นาน 1-3 เดือนแล้วแต่การดูแลผิวของแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

ครั้งที่ 1-3 ฉีดทุก 2 อาทิตย์ (แนะนำฉีดให้ครบ 3 ครั้ง จะเห็นผลดีมาก)

ครั้งที่ 4-5 ฉีดทุก 1 เดือน

ครั้งที่ 6 ฉีดทุก 6 เดือน

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะฉีดออก

- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด

- ใช้เวลาฉีดประมาน 10 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา งดแอลกอฮอล์

- 1-2 วันก่อนการฉีด ให้หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ AHA และสครับหน้า

- 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด ให้หยุดการใช้ยาแก้ปวด NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ

วิธีดูแลหลังทำ

-ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมทาครีมกันเเดดอย่างสม่ำเสมอ

- หลังรักษาสามารถใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ โดยทาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูแรงๆ

- สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

- 2 สัปดาห์แรกงด ทำทรีตเมนท์ นวดหน้า อบซาวหน้า ทำเลเซอร์

ผลข้างเคียง

หลังการฉีดอาจเกิดรอยฟกช้ำของเข็มบ้างเล็กน้อย แต่รอยจะจางหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

Skin Booster ที่เป็น Hybrid collagen คอลลาเจนบูสเตอร์ที่ผสมผสานระหว่างกรดไฮยาลูโรนิกกับกรดโพลิแลกติก เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความชุ่มชื้นอิ่มฟูเป็นสารบริสุทธิ์ไม่ตัดแต่งพันธุกรรม จึงปลอดภัยสูง ได้รางวัล Skin booster อันดับ 1 เกาหลี 2 ปีซ้อน

Skin Booster ที่เป็น Hybrid collagen คอลลาเจนบูสเตอร์ที่ผสมผสานระหว่างกรดไฮยาลูโรนิกกับกรดโพลิแลกติก เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน และเพิ่มความชุ่มชื้นอิ่มฟูเป็นสารบริสุทธิ์ไม่ตัดแต่งพันธุกรรม จึงปลอดภัยสูง ได้รางวัล Skin booster อันดับ 1 เกาหลี 2 ปีซ้อน

ทำไมต้อง JUVELOOK?
• Juvelook เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนงานผิวที่เหมาะกับมาฉีดใต้ตาและคอได้
• ผ่านอย.แบบฉีด อย.ไทย, เกาหลี, ยุโรปทุกอย่ - ใช้ทั่วโลกมากกว่า40 ประเทศมี
• สารสกัดปลอดภัย เทคโนโลยีการตรวจสอบสิทธิบัตรจาก USA
• ผลข้างเคียงน้อยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ
• อนุภาคเล็ก สามารถฉีดได้ทั้งหน้า
• กระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างเป็นธรรมชาติและยาวนาน
• ไม่มีรายงานเกี่ยวกับเส้นเลือดอุดตันและgranulamo

โบท็อกซ์ คืออะไร?

โบท็อกซ์ Botulinum toxin จะช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว

ที่ Meko BFill เราใช้ โบท็อกซ์ ยี่ห้อ Nabota ซึ่งเป็นโบท็อกซ์อันดับ 1 นำเข้าจากเกาหลี

เห็นผลเมื่อไหร่

ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ประมาณ 3-7 วัน หลังจากฉีด

จะเห็นผลสูงสุดใน 2 สัปดาห์

มีผลอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

หากรู้สึกว่ากล้ามเนื้อเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง ก็สามารถเข้ามาฉีดซ้ำได้เลย

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะฉีดออก

- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด

- ใช้เวลาฉีดประมาน 20 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา งดแอลกอฮอล์

- 1-2 วันก่อนการฉีด ให้หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ AHA และสครับหน้า

- 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด ให้หยุดการใช้ยาแก้ปวด NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ

เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ

- ถ้ามีประวัติโรคเริมบริเวณริวฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนการรักษา

วิธีดูแลหลังทำ

- หลังรักษาสามารถใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ โดยทาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูแรงๆ

- 1-2 ชั่วโมงแรกพยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น

- 3-4 ชั่วโมงแรกอย่านอนราบหรือนอนตะแคง

- สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

- 2 สัปดาห์แรกงด ทำทรีตเมนท์ นวดหน้า อบซาวหน้า ทำเลเซอร์

ผลข้างเคียง

หลังการฉีดอาจเกิดรอยฟกช้ำของเข็มบ้างเล็กน้อย แต่รอยจะจางหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

เติมความสว่างให้ผิว ด้วนการฉีดวิตามินผิว สูตรขาวกระจ่างใส ตัวพรีเมียมจากเกาหลี ตัวช่วยฟื้นฟูผิวกระจ่างใส แบบเร่งด่วน ด้วยวิตามินสูตรเข้มข้นพิเศษ

ด้วยส่วนผสมหลักๆ 3 ตัวยา

Glutanex :ปรับผิวให้แลดูสว่างขึ้น ยับยังการเกิดเม็ดสีเมลานิน ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างคอลลาเจน และยังช่วยบำรุงตับอีกด้วย 

Liponex :ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของกลูต้า ปรับสภาพผิวให้ดูเฟิร์มขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว 

Vitamin C :เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมและทำงานของกลูต้า ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ทำให้ผิวแข็งแรง กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

หลังจากฉีด 1-3 ครั้ง จะเริ่มรู้สึกได้ว่าผิวขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด 

เห็นผลเมื่อไหร่

แนะนำให้ทำ 3-5 ครั้งขึ้นไป

ควรทำบ่อยขนาดไหน

สามารถฉีดได้ 1ครั้ง/สัปดาห์ หรือมากที่สุดไม่เกิน 2ครั้ง/สัปดาห์

ขั้นตอนการทำ

- ใช้เวลาทำประมาน 15 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง

ไม่มี

* Double Dose เพิ่ม 1,000/ครั้ง

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

*เข้ารับบริการได้เฉพาะวันจันทร์ พุธ พฤหัส เสาร์ และ อาทิตย์เท่านั้น*

ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)

เข้ารับบริการได้เฉพาะวันอังคาร และ ศุกร์เท่านั้น

Ultraformer III (อัลตร้าฟอร์มเมอร์ ทรี)
ผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก)ชั้น SMAS ทำให้เนื้อเยื้อถูกกระตุ้นสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ Ultraformer III ถูกพัฒนามาจาก HIFU รูปแบบเดิม ซึ่งจะแตกต่างด้วยเทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งคลื่นอัลตราซาวด์ลงไปสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่าเดิม สามารถปล่อยพลังงานลงไปใต้ผิวหนัง ระดับความลึกที่ 1.5 mm / 3 mm / 4.5 mm

เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น มีความปลอดภัยไม่กระทบต่อผิวหนัง ผิวหน้าดูกระชับอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม

* หัว 4.5 mm เป็นหัวที่ยิงพลังงานได้ลึกที่สุด โดยยิงลงได้ถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ชั้น SMAS ชั้นผ่าตัดดึงหน้า ชั้นนี้จะช่วยในเรื่องการยืดการหดตัวของผิวหน้า
* หัว 3.0 mm เป็นหัวยิงพลังงานที่ลึกในระดับรองลงมา โดยยิงลงได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ผิวชั้นนี้จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและจัดเซลล์อิลาสติน ทำให้ผิวดูแน่นกระชับขึ้น
* หัว 1.5 mm ยิงเก็บผิวชั้นตื้น ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจนผิวชั้นบน ลดการเกิดริ้วรอยตื้นๆที่หางตา ร่องแก้มตื้นๆ ใต้ตา มุมปาก และยังช่วยกระชับรูขุมขนด้วย

เห็นผลเมื่อไหร่
เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%
ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน
ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน
สามารถเข้ามาทำซ้ำได้ทุกๆ 4-6 เดือน

ขั้นตอนการทำ
- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก
- ใช้เวลาทำประมาน 25 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง
หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

* โปรโมทชั่นนี้ไม่รวมค่ายาชาหรือหัตถการอื่นเพิ่มเติม

บริเวณใบหน้าเลือกทำได้ 1 โหมด : ลดกระจุดด่างดำทั่วหน้า / ฟื้นฟูหลุมสิวทั่วหน้า / กระชับรูขุมขน

Pico คืออย่างไร?
จุดเด่นของ Pico นั้นคือเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Picosecond เป็นความเร็วของพลังงานเลเซอร์ที่ยิงลงไปใต้ผิวหนังด้วยความเร็วสูงสุดในระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที / ครั้ง จะทำให้เม็ดเลเซอร์จ่ายออกจากเป็นชิ้นส่วนละเอียด โดยไม่กระทบเนื้อเยื่อปกติจึงลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นบนผิวได้ดี
และตอบสนองเม็ดสีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระ รอยดำ รอยต่างๆ แผลเป็น แผลจากสาเหตุต่างๆ หรือ รอยสักต่างๆ อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวขาว กระจ่างใส เรียบเนียน ริ้วรอยลดลงไปพร้อมกับการจัดการปัญหาต่างๆ เช่น รอยสิว รอยสัก ซึ่งทำให้เม็ดเลเซอร์ยิงไปได้อย่างแม่นยำ โดยไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ

หลักการทำงานของเครื่องนี้
พลังงานเลเซอร์ที่ยิงลงไปใต้ผิวหนังด้วยความเร็วสูงสุดในระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที / ครั้ง ด้วยความเร็วในการยิงระดับนี้ ทำให้พลังงานสูงกว่าเลเซอร์รุ่นอื่น ๆ ไม่ก่อให้เกิดความร้อนสะสมใต้ชั้นผิว ทั้งยังเปลี่ยนพลังงานความร้อนที่เข้ามาใต้ผิวให้เป็นแรงดัน เม็ดสีบริเวณที่ยิงจะแตกตัวออกและถูกดูดซึมออกจาก่างกาย ทำให้เม็ดสีบริเวณที่ยิงจางลง

Pico มีหลายความยาวคลื่นที่สามารถกำจัดเม็ดสีและรอยสักได้:
* 532 nm: กำจัดเม็ดสีชั้นตื้น เช่น ปาน, จุดด่างดำ, รอยสักสีแดง และปัญหาเส้นเลือดฝอย ไฝแดง
* 585 nm: ทำงานคล้าย 532 nm แต่เหมาะกับผิวเข้มมากกว่า
* 650 nm: กำจัดรอยสักสีเขียวและสีน้ำเงิน
* 1064 nm: สามารถลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ หนังชั้นใน เพื่อกำจัดเม็ดสี เช่น ปานแต่กำเนิด, ปานโอตะ, จุดด่างดำ, จุดสีน้ำตาล รวมถึงรอยสักสีดำ

Pico เหมาะกับใคร?
* ผู้ที่มีความผิดปกติของเม็ดสี เช่น กระประเภทต่าง ๆ กระตื้น กระลึก ตกกระ กระแดด
* ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยดำจากฝ้า ต้องการมีผิวขาวกระจ่างใส
* ผู้ที่มีริ้วรอย ต้องการการลดเลือนริ้วรอยหรือปรับความเรียบเนียนของผิว
* ผู้ที่มีรอยสิว หลุมสิว และแผลเป็นต่าง ๆ
* ผู้ที่ต้องการลบรอยสักสีสันต่าง ๆ รอยสักสีดำ สีเหลือง
* ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ต้องการมีผิวเนียนละเอียด
* ผู้ที่ต้องการลบรอยแตกกลาย

คำถามที่พบบ่อย
ระยะเวลาพักฟื้นหลังทำเลเซอร์
ระยะพักฟื้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการตอบสนองของแต่ละคน โดยทั่วไป:
* ลบรอยสัก: ควรเว้นระยะห่างประมาณ 6 สัปดาห์ ระหว่างแต่ละครั้ง
* รักษารอยแผลเป็นจากสิว & ฟื้นฟูผิว: ใช้เลนส์แบบ Fractional ควรเว้นระยะห่าง 6-8 สัปดาห์ หรือบางกรณีสามารถทำได้ทุก 3-4 สัปดาห์
Pico Laser ปลอดภัยไหม?
Pico ใช้พลังงานเลเซอร์ที่มีความเร็วสูงมาก (Ultra-fast pulses) จึงลดความร้อนที่ส่งไปยังผิวหนัง ทำให้เกิดความเสียหายน้อยลง และลดความเสี่ยงในการทำร้ายผิวรอบข้าง
ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังทำหรือไม่?
หลังทำเลเซอร์ ผิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการตากแดดและใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30+ ขึ้นไป
ใช้เวลาทำเลเซอร์นานแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับขนาดของบริเวณที่ทำ เช่น
* รอยสักขนาดกลาง หรือ การฟื้นฟูผิว: ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ความรู้สึกขณะทำเลเซอร์เป็นอย่างไร?
* ฟื้นฟูผิว: ให้ความรู้สึกเหมือนหนังยางดีดที่ผิวเบาๆ
* ลบรอยสัก: ใช้พลังงานสูงกว่า อาจรู้สึกเจ็บมากกว่า แต่สามารถใช้ยาชาหรือวิธีบรรเทาอาการเจ็บร่วมได้
ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
* ลบรอยสัก: ขึ้นอยู่กับขนาด ตำแหน่ง และปริมาณหมึก โดยปกติใช้ 3-4 ครั้ง สำหรับรอยสักใหม่
* จุดด่างดำหรือเม็ดสีผิดปกติ: จำนวนครั้งขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการตอบสนองของแต่ละคน
ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
* ลบรอยสัก & รักษารอยแผลเป็นจากสิว: ผลลัพธ์ถาวร
* ฟื้นฟูผิว: ผลลัพธ์อยู่ได้นาน แต่เม็ดสีบางประเภทอาจกลับมาได้
จะเกิดแผลเป็นหรือไม่?
* โดยปกติการทำเลเซอร์ Pico-second มีโอกาสเกิดแผลเป็นน้อยมาก
* การลบรอยสักใช้พลังงานสูงกว่าอาจทำให้เกิด Hypopigmentation (ผิวจางลง) ในบางกรณี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแค่ชั่วคราว

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

Thermage Korea ทั่วหน้า+เหนียง

Thermage Korea คืออะไร?

เทคโนโลยีใหม่จากเกาหลี โดยใช้เครื่อง Intragen ใช้หลักการทำงานแบบเดียวกับ Thermage คือใช้คลื่นความร้อน RF โดยพลังงานจะลงลึกถึงชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นฟูขึ้น ช่วยสลายไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันเยอะ และผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยปัญหาผิวที่ต้องการฟื้นฟู

*ผู้ที่ไม่สามารถรับบริการนี้ได้
- ลูกค้าที่มีโรคหัวใจ
- มีเหล็กดามตามร่างกาย เช่นเคยแขนหัก, ขาหัก

บริเวณที่จะทำ

ทั่วหน้า+เหนียง 

เห็นผลเมื่อไหร่

เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%

ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน

ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 3-4 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก

- ใช้เวลาทำประมาน 35 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง

หลังทำอาจมีอาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

* คุณลูกค้าจะไม่สามารถเลือกยี่ห้อของ Filler เองได้ทุกกรณี(แพทย์จะเป็นผู้เลือกรุ่นที่ฉีดให้เองตามความเหมาะสมของแต่ละบุคคล) เท่านั้น

ฟิลเลอร์ Volifil จากประเทศเกาหลี ประกอบด้วยกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในร่างกายและมีคุณสมบัติในการดึงดูดน้ำ ทำให้ผิวดูอิ่มเอิบและเรียบเนียนขึ้น ใช้เทคโนโลยี HCCL™ TECHNOLOGY (Highly Completed Cross-Linking) ในการผลิต ทำให้ฟิลเลอร์คงที่ไม่ไหล และปั้นขึ้นทรงได้ง่าย อยู่ได้นาน 9 – 12 เดือน มีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นดังนี้
- Volifil CLASSIC
- Volifil DEEP
- Volifil Sub-Q

Filler เกาหลี ยี่ห้อ e.p.t.q. ใช้ของแท้จากบริษัทโดยตรง ผ่าน อย.ไทย คุณภาพมาตรฐาน USA มียาชาในตัว จะเห็นเป็นทรงชัดเจนเนื้อสัมผัสจะเเข็งกว่า เหมาะกับการฉีดร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ปาก และคาง อยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน

* ทางคลินิกมีรุ่น S100, S300, S500

หมายเหตุ : ทุกโปรโมชั่นของทางคลินิกหากกดซื้อ และชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถ ขอยกเลิก ขอเปลี่ยนบริการ หรือขอคืนเงินได้ทุกกรณี
- กรณีลูกค้าตั้งครรภ์ งดให้บริการทุกบริการ
- กรณีลูกค้าให้นมบุตร งดให้บริการในกลุ่มฉีดทั้งหมด
- ไม่สามารถแชร์คอร์สร่วมกับผู้อื่นได้ทุกกรณี
-----------------
Morpheus8
เทคโนโลยีทางการแพทย์รุ่นล่าสุด ที่สามารถเลือกปรับระดับความลึกของพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Multi-layer technology) ให้เหมาะสมกับชั้นผิวหนังของแต่ละ บุคคล (Adjustable Depth Fractional Radiofrequency) MO REMODELS & CONTOURS TH FACE AND BOD STIMULATES COLLAGEN “อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สามารถปล่อยพลังงานเข้าสู่ผิวได้ลึกที่สุด (Deepest FDA approved fractional technology)"

Gold coated micropins ใช้เข็มทองคำขนาดเล็กมาก หลังทำไม่เป็นสะเก็ด แค่รู้สึกผิวแห้งขึ้นเล็กน้อย แบ่งหัวออกเป็น 2 ประเภท
24 thin gold coated micropins สําหรับบริเวณใบหน้าและลำคอ
40 thin gold coated micropins สำหรับบริเวณลำตัว

ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
1.กระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ (Dermal Remodeling)
2.กระชับชั้นไขมันใต้ผิว (Subdermal Adipose Tissue Remodeling) ทําให้ใบหน้ายกกระชับ (ไม่ต้อง กลัว ใบหน้าตอบ) แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด
3.ลดเรือนริ้วรอยรอบดวงตา และช่วยเรื่องความเรียบเนียนของผิวไปพร้อมกัน (สามารถเลือกปรับระดับความ ลึกให้เหมาะสมกับทุกปัญหาผิว)
4.เพิ่ม HA (hyaluronic acid) ให้กับผิวหน้า ทําให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์เสมือนผิวเด็ก และช่วยลดเรือนริ้วรอย แห่งวัย (Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถกระตุ้นการสร้างHAผิวได้) ฟื้นฟูสภาพผิวที่เสื่อมตามกาล เวลา (Ageing skin) ให้ดูอ่อนเยาว์

Morpheus 8 ควรทำบ่อยขนาดไหน แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 5-6 เดือน ( ปีละ 2 ครั้ง )

ถ้าหากมีแพลนจะทำกลุ่มเครื่องอื่นๆต่อ เช่น Ultra Former III / Hifu Hi Lift / Premium Hifu / Thermage ต้องเว้นระยะห่างจากวันที่ทำ Morpheus 8 1 เดือน

โบท็อกซ์ Botulinum toxin จะช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว

ที่ Meko BFill เราใช้ โบท็อกซ์ ยี่ห้อ Aestox ซึ่งเป็นโบท็อกซ์อันดับ 1 นำเข้าจากเกาหลี

บริเวณใบหน้าเลือกทำได้ 1 โหมด : ลดกระจุดด่างดำทั่วหน้า / ฟื้นฟูหลุมสิวทั่วหน้า / กระชับรูขุมขน

Pico คืออย่างไร?
จุดเด่นของ Pico นั้นคือเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Picosecond เป็นความเร็วของพลังงานเลเซอร์ที่ยิงลงไปใต้ผิวหนังด้วยความเร็วสูงสุดในระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที / ครั้ง จะทำให้เม็ดเลเซอร์จ่ายออกจากเป็นชิ้นส่วนละเอียด โดยไม่กระทบเนื้อเยื่อปกติจึงลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นบนผิวได้ดี
และตอบสนองเม็ดสีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระ รอยดำ รอยต่างๆ แผลเป็น แผลจากสาเหตุต่างๆ หรือ รอยสักต่างๆ อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวขาว กระจ่างใส เรียบเนียน ริ้วรอยลดลงไปพร้อมกับการจัดการปัญหาต่างๆ เช่น รอยสิว รอยสัก ซึ่งทำให้เม็ดเลเซอร์ยิงไปได้อย่างแม่นยำ โดยไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ

หลักการทำงานของเครื่องนี้
พลังงานเลเซอร์ที่ยิงลงไปใต้ผิวหนังด้วยความเร็วสูงสุดในระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที / ครั้ง ด้วยความเร็วในการยิงระดับนี้ ทำให้พลังงานสูงกว่าเลเซอร์รุ่นอื่น ๆ ไม่ก่อให้เกิดความร้อนสะสมใต้ชั้นผิว ทั้งยังเปลี่ยนพลังงานความร้อนที่เข้ามาใต้ผิวให้เป็นแรงดัน เม็ดสีบริเวณที่ยิงจะแตกตัวออกและถูกดูดซึมออกจาก่างกาย ทำให้เม็ดสีบริเวณที่ยิงจางลง

Pico มีหลายความยาวคลื่นที่สามารถกำจัดเม็ดสีและรอยสักได้:
* 532 nm: กำจัดเม็ดสีชั้นตื้น เช่น ปาน, จุดด่างดำ, รอยสักสีแดง และปัญหาเส้นเลือดฝอย ไฝแดง
* 585 nm: ทำงานคล้าย 532 nm แต่เหมาะกับผิวเข้มมากกว่า
* 650 nm: กำจัดรอยสักสีเขียวและสีน้ำเงิน
* 1064 nm: สามารถลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ หนังชั้นใน เพื่อกำจัดเม็ดสี เช่น ปานแต่กำเนิด, ปานโอตะ, จุดด่างดำ, จุดสีน้ำตาล รวมถึงรอยสักสีดำ

Pico เหมาะกับใคร?
* ผู้ที่มีความผิดปกติของเม็ดสี เช่น กระประเภทต่าง ๆ กระตื้น กระลึก ตกกระ กระแดด
* ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยดำจากฝ้า ต้องการมีผิวขาวกระจ่างใส
* ผู้ที่มีริ้วรอย ต้องการการลดเลือนริ้วรอยหรือปรับความเรียบเนียนของผิว
* ผู้ที่มีรอยสิว หลุมสิว และแผลเป็นต่าง ๆ
* ผู้ที่ต้องการลบรอยสักสีสันต่าง ๆ รอยสักสีดำ สีเหลือง
* ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ต้องการมีผิวเนียนละเอียด
* ผู้ที่ต้องการลบรอยแตกกลาย

คำถามที่พบบ่อย
ระยะเวลาพักฟื้นหลังทำเลเซอร์
ระยะพักฟื้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการตอบสนองของแต่ละคน โดยทั่วไป:
* ลบรอยสัก: ควรเว้นระยะห่างประมาณ 6 สัปดาห์ ระหว่างแต่ละครั้ง
* รักษารอยแผลเป็นจากสิว & ฟื้นฟูผิว: ใช้เลนส์แบบ Fractional ควรเว้นระยะห่าง 6-8 สัปดาห์ หรือบางกรณีสามารถทำได้ทุก 3-4 สัปดาห์
Pico Laser ปลอดภัยไหม?
Pico ใช้พลังงานเลเซอร์ที่มีความเร็วสูงมาก (Ultra-fast pulses) จึงลดความร้อนที่ส่งไปยังผิวหนัง ทำให้เกิดความเสียหายน้อยลง และลดความเสี่ยงในการทำร้ายผิวรอบข้าง
ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังทำหรือไม่?
หลังทำเลเซอร์ ผิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการตากแดดและใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30+ ขึ้นไป
ใช้เวลาทำเลเซอร์นานแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับขนาดของบริเวณที่ทำ เช่น
* รอยสักขนาดกลาง หรือ การฟื้นฟูผิว: ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ความรู้สึกขณะทำเลเซอร์เป็นอย่างไร?
* ฟื้นฟูผิว: ให้ความรู้สึกเหมือนหนังยางดีดที่ผิวเบาๆ
* ลบรอยสัก: ใช้พลังงานสูงกว่า อาจรู้สึกเจ็บมากกว่า แต่สามารถใช้ยาชาหรือวิธีบรรเทาอาการเจ็บร่วมได้
ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
* ลบรอยสัก: ขึ้นอยู่กับขนาด ตำแหน่ง และปริมาณหมึก โดยปกติใช้ 3-4 ครั้ง สำหรับรอยสักใหม่
* จุดด่างดำหรือเม็ดสีผิดปกติ: จำนวนครั้งขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการตอบสนองของแต่ละคน
ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
* ลบรอยสัก & รักษารอยแผลเป็นจากสิว: ผลลัพธ์ถาวร
* ฟื้นฟูผิว: ผลลัพธ์อยู่ได้นาน แต่เม็ดสีบางประเภทอาจกลับมาได้
จะเกิดแผลเป็นหรือไม่?
* โดยปกติการทำเลเซอร์ Pico-second มีโอกาสเกิดแผลเป็นน้อยมาก
* การลบรอยสักใช้พลังงานสูงกว่าอาจทำให้เกิด Hypopigmentation (ผิวจางลง) ในบางกรณี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแค่ชั่วคราว

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

*เข้ารับบริการได้เฉพาะวันจันทร์ วันพุธ พฤหัส เสาร์ และ อาทิตย์เท่านั้น*

Ultraformer III (อัลตร้าฟอร์มเมอร์ ทรี)
ผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก)ชั้น SMAS ทำให้เนื้อเยื้อถูกกระตุ้นสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ Ultraformer III ถูกพัฒนามาจาก HIFU รูปแบบเดิม ซึ่งจะแตกต่างด้วยเทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งคลื่นอัลตราซาวด์ลงไปสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่าเดิม สามารถปล่อยพลังงานลงไปใต้ผิวหนัง ระดับความลึกที่ 1.5 mm / 3 mm / 4.5 mm

เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น มีความปลอดภัยไม่กระทบต่อผิวหนัง ผิวหน้าดูกระชับอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม

* หัว 4.5 mm เป็นหัวที่ยิงพลังงานได้ลึกที่สุด โดยยิงลงได้ถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ชั้น SMAS ชั้นผ่าตัดดึงหน้า ชั้นนี้จะช่วยในเรื่องการยืดการหดตัวของผิวหน้า
* หัว 3.0 mm เป็นหัวยิงพลังงานที่ลึกในระดับรองลงมา โดยยิงลงได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ผิวชั้นนี้จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและจัดเซลล์อิลาสติน ทำให้ผิวดูแน่นกระชับขึ้น
* หัว 1.5 mm ยิงเก็บผิวชั้นตื้น ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจนผิวชั้นบน ลดการเกิดริ้วรอยตื้นๆที่หางตา ร่องแก้มตื้นๆ ใต้ตา มุมปาก และยังช่วยกระชับรูขุมขนด้วย

เห็นผลเมื่อไหร่
เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%
ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน
ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน
แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 4-6 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ
- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก
- ใช้เวลาทำประมาน 25 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง
หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

* โปรโมทชั่นนี้ไม่รวมค่ายาชาหรือหัตถการอื่นเพิ่มเติม

HIFEM Sculpt

ปั้นกล้ามเนื้อ หุ่นเฟิร์ม 

ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ 16% ลดไขมัน 19%

สร้างซิกแพคให้เห็นชัด เหมาะสำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ แล้วต้องการให้เห็นกล้ามเนื้อที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ปั้นก้นเด้ง ก้นงอนสวย

กระชับสะโพกกระชับ

ต้นแขน ต้นขา ดูกระชับมากขึ้น 

เครื่อง HIFEM Sculpt เป็นนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ (High-Intensity Focused Electromagnetic) โดยพลังงานจะถูกส่งไปยัง “กล้ามเนื้อ” เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อให้เกิดการหดและเกร็งในระดับสูง (Supramaximal) ถึง 30,000ครั้ง/30นาที เปรียบได้กับการเล่นสควอช หรือ ซิทอัพ 30,000 ครั้ง ทำให้ร่างกายเกิดการสร้างกล้ามเนื้อ “ใหญ่ขึ้น” “แข็งแรงขึ้น” ไปพร้อมกับการ “เผาผลาญไขมัน” ที่ดีขึ้น เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของอเมริกา หรือ Food and Drug Administration (FDA)

บริเวณที่จะทำ

สามารถเลือกได้ 1 บริเวณ หน้าท้อง แขนใน แขนนอก ขานอก ขาใน หน้าขา หลังขา ก้น

เห็นผลเมื่อไหร่

แนะนำให้ทำ 4-6 ครั้งขึ้นไป

ควรทำบ่อยขนาดไหน

ทำได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

ขั้นตอนการทำ

- ถอดอุปกรณ์เครื่องประดับทุกชิ้นในร่างกาย

- งดใช้โทรศัพท์ขณะรับบริการ

- วางอุปกรณ์บริเวณที่ทำ

- ใช้เวลาประมาน 30 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

-ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

-ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง

มีความรู้สึกเหนื่อย เมื่อยล้า เหมือนพึ่งออกกำลังกายเสร็จ หรือมีการกระหายน้ำบ้างเล็กน้อย อาการนี้จะหายไปเองประมาน 24 ชม.

Botox Allergan ผลิตโดยบริษัทอัลเลอร์แกน (Allergan) ประเทศอเมริกา เป็นโบท็อก Original เพราะเป็นแบรนด์แรกที่คิดค้นสารโบทูลินั่มในการลดริ้วรอยครับ และยังเป็นแบรนด์แรกที่ได้รับ FDA (อย.) ในการลดริ้วรอย ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ทำให้ตัวยากระจายตัวได้ดี

หมายเหตุ : ทุกโปรโมชั่นของทางคลินิกหากกดซื้อ และชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถ ขอยกเลิก ขอเปลี่ยนบริการ หรือขอคืนเงินได้ทุกกรณี
- กรณีลูกค้าตั้งครรภ์ งดให้บริการทุกบริการ
- กรณีลูกค้าให้นมบุตร งดให้บริการในกลุ่มฉีดทั้งหมด
- ไม่สามารถแชร์คอร์สร่วมกับผู้อื่นได้ทุกกรณี

สำหรับบริการที่มีคอร์สแถม บริการที่แถมฟรีจะต้องเข้ามาใช้ให้ครบภายใน 6 เดือน

( นับจากวันที่รับบริการครั้งแรกไปแล้วเท่านั้น! )

Morpheus8
เทคโนโลยีทางการแพทย์รุ่นล่าสุด ที่สามารถเลือกปรับระดับความลึกของพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Multi-layer technology) ให้เหมาะสมกับชั้นผิวหนังของแต่ละ บุคคล (Adjustable Depth Fractional Radiofrequency) MO REMODELS & CONTOURS TH FACE AND BOD STIMULATES COLLAGEN “อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สามารถปล่อยพลังงานเข้าสู่ผิวได้ลึกที่สุด (Deepest FDA approved fractional technology)"

Gold coated micropins ใช้เข็มทองคำขนาดเล็กมาก หลังทำไม่เป็นสะเก็ด แค่รู้สึกผิวแห้งขึ้นเล็กน้อย แบ่งหัวออกเป็น 2 ประเภท
24 thin gold coated micropins สําหรับบริเวณใบหน้าและลำคอ
40 thin gold coated micropins สำหรับบริเวณลำตัว

ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
1.กระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ (Dermal Remodeling)
2.กระชับชั้นไขมันใต้ผิว (Subdermal Adipose Tissue Remodeling) ทําให้ใบหน้ายกกระชับ (ไม่ต้อง กลัว ใบหน้าตอบ) แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด
3.ลดเรือนริ้วรอยรอบดวงตา และช่วยเรื่องความเรียบเนียนของผิวไปพร้อมกัน (สามารถเลือกปรับระดับความ ลึกให้เหมาะสมกับทุกปัญหาผิว)
4.เพิ่ม HA (hyaluronic acid) ให้กับผิวหน้า ทําให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์เสมือนผิวเด็ก และช่วยลดเรือนริ้วรอย แห่งวัย (Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถกระตุ้นการสร้างHAผิวได้) ฟื้นฟูสภาพผิวที่เสื่อมตามกาล เวลา (Ageing skin) ให้ดูอ่อนเยาว์

Morpheus 8 ควรทำบ่อยขนาดไหน แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 5-6 เดือน ( ปีละ 2 ครั้ง )

ถ้าหากมีแพลนจะทำกลุ่มเครื่องอื่นๆต่อ เช่น Ultra Former III / Hifu Hi Lift / Premium Hifu / Thermage ต้องเว้นระยะห่างจากวันที่ทำ Morpheus 8 1 เดือน

* หน้าท้อง แถม หลัง, แขน, หน้าขา, ขาใน (เลือกได้ 1 บริเวณ)
* ก้น แถม หลังขา 
* โปรโมชั่น 1 แถม 1 ต้องเข้ารับบริการในวันเดียวกันเท่านั้น
* ไม่สามารถรับบริการระหว่างมีประจำเดือนได้

HIFEM Sculpt

ปั้นกล้ามเนื้อ หุ่นเฟิร์ม 

ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ 16% ลดไขมัน 19%

สร้างซิกแพคให้เห็นชัด เหมาะสำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ แล้วต้องการให้เห็นกล้ามเนื้อที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ปั้นก้นเด้ง ก้นงอนสวย

กระชับสะโพกกระชับ

ต้นแขน ต้นขา ดูกระชับมากขึ้น 

เครื่อง HIFEM Sculpt เป็นนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หรือ (High-Intensity Focused Electromagnetic) โดยพลังงานจะถูกส่งไปยัง “กล้ามเนื้อ” เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อให้เกิดการหดและเกร็งในระดับสูง (Supramaximal) ถึง 30,000ครั้ง/30นาที เปรียบได้กับการเล่นสควอช หรือ ซิทอัพ 30,000 ครั้ง ทำให้ร่างกายเกิดการสร้างกล้ามเนื้อ “ใหญ่ขึ้น” “แข็งแรงขึ้น” ไปพร้อมกับการ “เผาผลาญไขมัน” ที่ดีขึ้น เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาของอเมริกา หรือ Food and Drug Administration (FDA)

บริเวณที่จะทำ

สามารถเลือกได้ 1 บริเวณ หน้าท้อง แขนใน แขนนอก ขานอก ขาใน หน้าขา หลังขา ก้น

เห็นผลเมื่อไหร่

แนะนำให้ทำ 4-6 ครั้งขึ้นไป

ควรทำบ่อยขนาดไหน

ทำได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

ขั้นตอนการทำ

- ถอดอุปกรณ์เครื่องประดับทุกชิ้นในร่างกาย

- งดใช้โทรศัพท์ขณะรับบริการ

- วางอุปกรณ์บริเวณที่ทำ

- ใช้เวลาประมาน 30 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

-ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

-ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง

มีความรู้สึกเหนื่อย เมื่อยล้า เหมือนพึ่งออกกำลังกายเสร็จ หรือมีการกระหายน้ำบ้างเล็กน้อย อาการนี้จะหายไปเองประมาน 24 ชม.

หมายเหตุ : ทุกโปรโมชั่นของทางคลินิกหากกดซื้อ และชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถ ขอยกเลิก ขอเปลี่ยนบริการ หรือขอคืนเงินได้ทุกกรณี
- กรณีลูกค้าตั้งครรภ์ งดให้บริการทุกบริการ
- กรณีลูกค้าให้นมบุตร งดให้บริการในกลุ่มฉีดทั้งหมด
- ไม่สามารถแชร์คอร์สร่วมกับผู้อื่นได้ทุกกรณี
-----------------
Morpheus8
เทคโนโลยีทางการแพทย์รุ่นล่าสุด ที่สามารถเลือกปรับระดับความลึกของพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Multi-layer technology) ให้เหมาะสมกับชั้นผิวหนังของแต่ละ บุคคล (Adjustable Depth Fractional Radiofrequency) MO REMODELS & CONTOURS TH FACE AND BOD STIMULATES COLLAGEN “อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สามารถปล่อยพลังงานเข้าสู่ผิวได้ลึกที่สุด (Deepest FDA approved fractional technology)"

Gold coated micropins ใช้เข็มทองคำขนาดเล็กมาก หลังทำไม่เป็นสะเก็ด แค่รู้สึกผิวแห้งขึ้นเล็กน้อย แบ่งหัวออกเป็น 2 ประเภท
24 thin gold coated micropins สําหรับบริเวณใบหน้าและลำคอ
40 thin gold coated micropins สำหรับบริเวณลำตัว

ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
1.กระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ (Dermal Remodeling)
2.กระชับชั้นไขมันใต้ผิว (Subdermal Adipose Tissue Remodeling) ทําให้ใบหน้ายกกระชับ (ไม่ต้อง กลัว ใบหน้าตอบ) แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด
3.ลดเรือนริ้วรอยรอบดวงตา และช่วยเรื่องความเรียบเนียนของผิวไปพร้อมกัน (สามารถเลือกปรับระดับความ ลึกให้เหมาะสมกับทุกปัญหาผิว)
4.เพิ่ม HA (hyaluronic acid) ให้กับผิวหน้า ทําให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์เสมือนผิวเด็ก และช่วยลดเรือนริ้วรอย แห่งวัย (Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถกระตุ้นการสร้างHAผิวได้) ฟื้นฟูสภาพผิวที่เสื่อมตามกาล เวลา (Ageing skin) ให้ดูอ่อนเยาว์

Morpheus 8 ควรทำบ่อยขนาดไหน แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 5-6 เดือน ( ปีละ 2 ครั้ง )

ถ้าหากมีแพลนจะทำกลุ่มเครื่องอื่นๆต่อ เช่น Ultra Former III / Hifu Hi Lift / Premium Hifu / Thermage ต้องเว้นระยะห่างจากวันที่ทำ Morpheus 8 1 เดือน

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

Hifu แก้ม หรือ กรอบหน้า + เหนียง

Hifu คืออะไร?
Hifu(High Intensity Focus Ultrasound) คือ คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก) ทำให้ผิวหนังหดตัว และเกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น

บริเวณที่จะทำ
สามารถเลือกได้ 1 บริเวณ แก้ม หรือ กรอบหน้า + เหนียง สูงสุด 1000 ช็อต

เห็นผลเมื่อไหร่
เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%
ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน
ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน
แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 2 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ
- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก
- ใช้เวลาทำประมาน 25 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง
หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

* ให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญภายใต้การดูแลของแพทย์

Premium HIFU ทั่วหน้า + เหนียง ฟรี Hifu (Hi Lift) ทั่วหน้า + เหนียง ให้บริการโดยผู้ช่วย

สามารถฉีดได้ทุกบริเวณ จะอยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน เนื้อสัมผัสจะนุ่มกว่า เบา และค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของแต่ละบุคคล

ฉีดลดฝ้า หน้าขาวใส กระตุ้นคอลลาเจนด้วยกลูต้า ตัวช่วย กู้หน้าขาวใส ในขวดเดียว ใหม่จากเกาหลี Neo Glutanex Glow กลูต้าบริสุทธิ์ 

- ป้องกันสิวที่เกิดจากแมส+มลภาวะ

- หน้าขาวใส แต่งหน้าติดทน

ส่วนผสมอัดแน่น:

- Lyophilized Glutathione เปลี่ยนเม็ดสีดำคล้ำ ให้ขาวชมพูขึ้นทันที

- Purified PDRN 2% ฟื้นฟูผิวระดับ DNA

- Peptide + Vitamin complexs เติมอาหารผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิว

- Hyalolunic acid เพิ่มความชุ่มชื่น ฉ่ำวาว

- Hydrolyzed collagen ผิวแน่นฟู รูขุมขนเล็กลง

- Premium Growth factors ฟื้นฟูริ้วรอย ฝ้ากระ หลุมสิว จากกลไกธรรมชาติ

- Argililine + Adenosine ริ้วรอยจางลงใน 3 วัน

บริเวณใบหน้าเลือกทำได้ 1 โหมด : ลดกระจุดด่างดำทั่วหน้า / ฟื้นฟูหลุมสิวทั่วหน้า / กระชับรูขุมขน

Pico คืออย่างไร?
จุดเด่นของ Pico นั้นคือเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Picosecond เป็นความเร็วของพลังงานเลเซอร์ที่ยิงลงไปใต้ผิวหนังด้วยความเร็วสูงสุดในระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที / ครั้ง จะทำให้เม็ดเลเซอร์จ่ายออกจากเป็นชิ้นส่วนละเอียด โดยไม่กระทบเนื้อเยื่อปกติจึงลดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นบนผิวได้ดี
และตอบสนองเม็ดสีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระ รอยดำ รอยต่างๆ แผลเป็น แผลจากสาเหตุต่างๆ หรือ รอยสักต่างๆ อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวด้วยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวขาว กระจ่างใส เรียบเนียน ริ้วรอยลดลงไปพร้อมกับการจัดการปัญหาต่างๆ เช่น รอยสิว รอยสัก ซึ่งทำให้เม็ดเลเซอร์ยิงไปได้อย่างแม่นยำ โดยไม่เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ

หลักการทำงานของเครื่องนี้
พลังงานเลเซอร์ที่ยิงลงไปใต้ผิวหนังด้วยความเร็วสูงสุดในระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที / ครั้ง ด้วยความเร็วในการยิงระดับนี้ ทำให้พลังงานสูงกว่าเลเซอร์รุ่นอื่น ๆ ไม่ก่อให้เกิดความร้อนสะสมใต้ชั้นผิว ทั้งยังเปลี่ยนพลังงานความร้อนที่เข้ามาใต้ผิวให้เป็นแรงดัน เม็ดสีบริเวณที่ยิงจะแตกตัวออกและถูกดูดซึมออกจาก่างกาย ทำให้เม็ดสีบริเวณที่ยิงจางลง

Pico มีหลายความยาวคลื่นที่สามารถกำจัดเม็ดสีและรอยสักได้:
* 532 nm: กำจัดเม็ดสีชั้นตื้น เช่น ปาน, จุดด่างดำ, รอยสักสีแดง และปัญหาเส้นเลือดฝอย ไฝแดง
* 585 nm: ทำงานคล้าย 532 nm แต่เหมาะกับผิวเข้มมากกว่า
* 650 nm: กำจัดรอยสักสีเขียวและสีน้ำเงิน
* 1064 nm: สามารถลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ หนังชั้นใน เพื่อกำจัดเม็ดสี เช่น ปานแต่กำเนิด, ปานโอตะ, จุดด่างดำ, จุดสีน้ำตาล รวมถึงรอยสักสีดำ

Pico เหมาะกับใคร?
* ผู้ที่มีความผิดปกติของเม็ดสี เช่น กระประเภทต่าง ๆ กระตื้น กระลึก ตกกระ กระแดด
* ผู้ที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ รอยดำจากฝ้า ต้องการมีผิวขาวกระจ่างใส
* ผู้ที่มีริ้วรอย ต้องการการลดเลือนริ้วรอยหรือปรับความเรียบเนียนของผิว
* ผู้ที่มีรอยสิว หลุมสิว และแผลเป็นต่าง ๆ
* ผู้ที่ต้องการลบรอยสักสีสันต่าง ๆ รอยสักสีดำ สีเหลือง
* ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ต้องการมีผิวเนียนละเอียด
* ผู้ที่ต้องการลบรอยแตกกลาย

คำถามที่พบบ่อย
ระยะเวลาพักฟื้นหลังทำเลเซอร์
ระยะพักฟื้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการตอบสนองของแต่ละคน โดยทั่วไป:
* ลบรอยสัก: ควรเว้นระยะห่างประมาณ 6 สัปดาห์ ระหว่างแต่ละครั้ง
* รักษารอยแผลเป็นจากสิว & ฟื้นฟูผิว: ใช้เลนส์แบบ Fractional ควรเว้นระยะห่าง 6-8 สัปดาห์ หรือบางกรณีสามารถทำได้ทุก 3-4 สัปดาห์
Pico Laser ปลอดภัยไหม?
Pico ใช้พลังงานเลเซอร์ที่มีความเร็วสูงมาก (Ultra-fast pulses) จึงลดความร้อนที่ส่งไปยังผิวหนัง ทำให้เกิดความเสียหายน้อยลง และลดความเสี่ยงในการทำร้ายผิวรอบข้าง
ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังทำหรือไม่?
หลังทำเลเซอร์ ผิวจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการตากแดดและใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30+ ขึ้นไป
ใช้เวลาทำเลเซอร์นานแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับขนาดของบริเวณที่ทำ เช่น
* รอยสักขนาดกลาง หรือ การฟื้นฟูผิว: ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ความรู้สึกขณะทำเลเซอร์เป็นอย่างไร?
* ฟื้นฟูผิว: ให้ความรู้สึกเหมือนหนังยางดีดที่ผิวเบาๆ
* ลบรอยสัก: ใช้พลังงานสูงกว่า อาจรู้สึกเจ็บมากกว่า แต่สามารถใช้ยาชาหรือวิธีบรรเทาอาการเจ็บร่วมได้
ต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
* ลบรอยสัก: ขึ้นอยู่กับขนาด ตำแหน่ง และปริมาณหมึก โดยปกติใช้ 3-4 ครั้ง สำหรับรอยสักใหม่
* จุดด่างดำหรือเม็ดสีผิดปกติ: จำนวนครั้งขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการตอบสนองของแต่ละคน
ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน?
* ลบรอยสัก & รักษารอยแผลเป็นจากสิว: ผลลัพธ์ถาวร
* ฟื้นฟูผิว: ผลลัพธ์อยู่ได้นาน แต่เม็ดสีบางประเภทอาจกลับมาได้
จะเกิดแผลเป็นหรือไม่?
* โดยปกติการทำเลเซอร์ Pico-second มีโอกาสเกิดแผลเป็นน้อยมาก
* การลบรอยสักใช้พลังงานสูงกว่าอาจทำให้เกิด Hypopigmentation (ผิวจางลง) ในบางกรณี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแค่ชั่วคราว

Thermage Korea กรอบหน้า + เหนียง ฟรี Hifu (Hi Lift) กรอบหน้าเหนียง ให้บริการโดยผู้ช่วย

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

Thermage Korea Light คืออะไร?

เทคโนโลยีใหม่จากเกาหลี เน้นบริเวณที่ต้องการทำให้ผิวอิ่มฟูดูสุขภาพดี จะช่วยได้ดีบริเวณที่มีพื้นที่จำกัดอย่างเช่น ยกคิ้ว ใต้ตา หรือร่องแก้ม โดยใช้เครื่อง Intragen ใช้หลักการทำงานแบบเดียวกับ Thermage คือใช้คลื่นความร้อน RF เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวยกกระชับ แน่นฟูขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยและปัญหาผิว

*ผู้ที่ไม่สามารถรับบริการนี้ได้
- ลูกค้าที่มีโรคหัวใจ
- มีเหล็กดามตามร่างกาย เช่นเคยแขนหัก, ขาหัก

เห็นผลเมื่อไหร่

เห็นผลทันทีหลังทำ

ผลชัดเจน 100% หลังทำ 2 สัปดาห์

ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 1-2 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 3-4 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก

- ใช้เวลาทำประมาน 15 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง

หลังทำอาจมีอาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

Thermage Korea คืออะไร?

เทคโนโลยีใหม่จากเกาหลี โดยใช้เครื่อง Intragen ใช้หลักการทำงานแบบเดียวกับ Thermage คือใช้คลื่นความร้อน RF โดยพลังงานจะลงลึกถึงชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นฟูขึ้น ช่วยสลายไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันเยอะ และผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยปัญหาผิวที่ต้องการฟื้นฟู

*ผู้ที่ไม่สามารถรับบริการนี้ได้
- ลูกค้าที่มีโรคหัวใจ
- มีเหล็กดามตามร่างกาย เช่นเคยแขนหัก, ขาหัก

เห็นผลเมื่อไหร่

เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%

ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน

ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 3-4 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก

- ใช้เวลาทำประมาน 35 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง

หลังทำอาจมีอาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

Skin Rejuvenation Booster (Repair & Healing & Anti-Ageing)

ปรับสมดุลให้ผิว ตัวยาที่นิยมฉีดมากที่สุดจากเกาหลี ตัวช่วยกระตุ้นฟื้นฟูเซลล์ผิวได้อย่างตรงจุด จากการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว

ด้วยเทคโนโลยี PN Polynucleotide ที่เป็นสารที่สกัดจาก DNA ปลาแซลมอน(อสุจิปลาแซลมอน) ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ DNA ของมนุษย์มากที่สุด ทำให้ไม่เกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงกับผิวหน้าของเรา

ฉีดเข้าไปในผิวชั้นหนังแท้ เมื่อตัวยาถูกฉีดเข้าไปจะเชื่อมต่อกับ DNA ในร่างกายเราได้เลยโดยไม่ต้องสังเคราะห์ เซลล์ผิวของเราจะซ่อมแซมตัวเองและสร้างเนื้อเยื่อเส้นใยขึ้นมาใหม่ หรือที่เราเรียกว่า Self Regeneration

คุณสมบัติหลักๆ

ช่วยแทนที่เซลล์ที่เสื่อมสภาพ ฟื้นฟูและสร้างเซลล์ใหม่ ได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่รวมถึงเส้นใย (fibroblast)ในการสร้างคอลลาเจนในการฟื้นฟูผิว เสมือนเพิ่มเกราะป้องกันให้ผิวหน้า ให้มีวอลลุ่มมากขึ้น ยืดหยุ่นได้ดีขึ้นอีกด้วย

-ผิวเนียนละเอียด กระชับรูขุมขน แบบสาวเกาหลี

-รักษาแผลเป็นหลุมสิว เติมเต็มหลุมสิว

-ช่วยให้ผิวแข็งแรงจากภายใน

-ผิวนุ่มชุ่มชื้น ปรับสมดุลผิว

-แก้ปัญหาริ้วรอยเล็กๆบนใบหน้า

-ผิวขาวกระจ่างใส ลดการเกิดเมลานิน

-ลดความมันส่วนเกินของผิวหน้า

เหมาะกับผู้มีปัญหาผิวแบบไหน

ผู้ที่มีปัญหาผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หน้าหมองคล้ำ

บริเวณที่ฉีด

ฉีดโดยแพทย์ 2CC ทั่วใบหน้า

ควรทำบ่อยขนาดไหน

1 หลอด 2 ml ฉีดทั่วใบหน้า

1 ปี ควรฉีดให้ครบ 3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างครั้งละ 1 เดือน

หลังจากนั้น อาจ Maintain ปีละครั้ง

ผลหลังการใช้ 3 เดือน 

3 - 5 วันหลังจากครั้งที่ 1

-ผิวหน้าดีขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น

-ความมันลดลงจากการปรับสมดุลน้ำและน้ำมันบนผิว

2 - 4 สัปดาห์หลังจากครั้งที่ 2

-ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้นโดยคอลลาเจนที่สร้างขึ้นเอง

-ริ้วรอยตื้นๆจางลง

-รูขุมขนกระชับมากขึ้น

-เซลล์ผิวได้รับการฟื้นฟู ทำให้เซลล์ผิวที่ตายลดลง

4 - 6 สัปดาห์หลังจากครั้งที่ 3

-ความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น

-ความยืดหยุ่นของหนังแท้ดีขึ้น

-เพิ่มวอลลุ่มให้ผิวหน้าดูแน่นขึ้น

ขั้นตอนการทำ

1. ทำความสะอาดใบหน้า

2.ประคบน้ำแข็ง

3. ฉีดตัวยา 15-20 นาที

4. ทาครีมบำรุงผิว

เตรียมตัวก่อนทำ

-ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- งดแต่งหน้า 6 ชั่วโมงหลังทำ

ผลข้างเคียง

หลังการฉีดอาจเกิดรอยฟกช้ำของเข็มบ้างเล็กน้อย แต่รอยจะจางหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

Botox Allergan ผลิตโดยบริษัทอัลเลอร์แกน (Allergan) ประเทศอเมริกา เป็นโบท็อก Original เพราะเป็นแบรนด์แรกที่คิดค้นสารโบทูลินั่มในการลดริ้วรอยครับ และยังเป็นแบรนด์แรกที่ได้รับ FDA (อย.) ในการลดริ้วรอย ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ทำให้ตัวยากระจายตัวได้ดี

หมายเหตุ : ทุกโปรโมชั่นของทางคลินิกหากกดซื้อ และชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถ ขอยกเลิก ขอเปลี่ยนบริการ หรือขอคืนเงินได้ทุกกรณี
- กรณีลูกค้าตั้งครรภ์ งดให้บริการทุกบริการ
- กรณีลูกค้าให้นมบุตร งดให้บริการในกลุ่มฉีดทั้งหมด
- ไม่สามารถแชร์คอร์สร่วมกับผู้อื่นได้ทุกกรณี
-----------------
Morpheus8
เทคโนโลยีทางการแพทย์รุ่นล่าสุด ที่สามารถเลือกปรับระดับความลึกของพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Multi-layer technology) ให้เหมาะสมกับชั้นผิวหนังของแต่ละ บุคคล (Adjustable Depth Fractional Radiofrequency) MO REMODELS & CONTOURS TH FACE AND BOD STIMULATES COLLAGEN “อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สามารถปล่อยพลังงานเข้าสู่ผิวได้ลึกที่สุด (Deepest FDA approved fractional technology)"

Gold coated micropins ใช้เข็มทองคำขนาดเล็กมาก หลังทำไม่เป็นสะเก็ด แค่รู้สึกผิวแห้งขึ้นเล็กน้อย แบ่งหัวออกเป็น 2 ประเภท
24 thin gold coated micropins สําหรับบริเวณใบหน้าและลำคอ
40 thin gold coated micropins สำหรับบริเวณลำตัว

ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
1.กระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ (Dermal Remodeling)
2.กระชับชั้นไขมันใต้ผิว (Subdermal Adipose Tissue Remodeling) ทําให้ใบหน้ายกกระชับ (ไม่ต้อง กลัว ใบหน้าตอบ) แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด
3.ลดเรือนริ้วรอยรอบดวงตา และช่วยเรื่องความเรียบเนียนของผิวไปพร้อมกัน (สามารถเลือกปรับระดับความ ลึกให้เหมาะสมกับทุกปัญหาผิว)
4.เพิ่ม HA (hyaluronic acid) ให้กับผิวหน้า ทําให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์เสมือนผิวเด็ก และช่วยลดเรือนริ้วรอย แห่งวัย (Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถกระตุ้นการสร้างHAผิวได้) ฟื้นฟูสภาพผิวที่เสื่อมตามกาล เวลา (Ageing skin) ให้ดูอ่อนเยาว์

Morpheus 8 ควรทำบ่อยขนาดไหน แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 5-6 เดือน ( ปีละ 2 ครั้ง )

ถ้าหากมีแพลนจะทำกลุ่มเครื่องอื่นๆต่อ เช่น Ultra Former III / Hifu Hi Lift / Premium Hifu / Thermage ต้องเว้นระยะห่างจากวันที่ทำ Morpheus 8 1 เดือน

"โบท็อกซ์ Botulinum toxin จะช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว

ที่ Meko BFill เราใช้ โบท็อกซ์ ยี่ห้อ Nabota ซึ่งเป็นโบท็อกซ์อันดับ 1 นำเข้าจากเกาหลี"

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

Hifu ทั่วหน้า + เหนียง

Hifu คืออะไร?
Hifu (High Intensity Focus Ultrasound) คือ คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก) ทำให้ผิวหนังหดตัว และเกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น

บริเวณที่จะทำ
ทั่วหน้า + เหนียง ไม่จำกัดช็อต ยิงตามประเมิน

เห็นผลเมื่อไหร่
เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%
ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน
ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน
แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 2 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ
- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก
- ใช้เวลาทำประมาน 35 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง
หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

* ให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญภายใต้การดูแลของแพทย์

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

Thermage Korea คืออะไร?

เทคโนโลยีใหม่จากเกาหลี โดยใช้เครื่อง Intragen ใช้หลักการทำงานแบบเดียวกับ Thermage คือใช้คลื่นความร้อน RF โดยพลังงานจะลงลึกถึงชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นฟูขึ้น ช่วยสลายไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันเยอะ และผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยปัญหาผิวที่ต้องการฟื้นฟู

*ผู้ที่ไม่สามารถรับบริการนี้ได้
- ลูกค้าที่มีโรคหัวใจ
- มีเหล็กดามตามร่างกาย เช่นเคยแขนหัก, ขาหัก

เห็นผลเมื่อไหร่

เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%

ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน

ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 3-4 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก

- ใช้เวลาทำประมาน 35 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง

หลังทำอาจมีอาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

*สงวนสิทธิ์การยิงจำนวนช็อต ตามวิจารณญาณการประเมินของแพทย์เท่านั้น เพื่อไม่ให้ส่งผลข้างเคียงที่อาจเกิดอันตรายต่อผู้รับบริการ*

โดยจะยิงจำนวนช็อตต่อบริเวณไม่เกินจำนวนดังต่อไปนี้:

- ใต้ตา 200 Shots
- ร่องแก้ม 200 Shots
- แก้ม+ร่องแก้ม ไม่เกิน 400 Shots
- กรอบหน้า+เหนียง ไม่เกิน 400 Shots
- ทั่วหน้า+เหนียง ไม่เกิน 500 Shots

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

Hifu กรอบหน้า

Hifu คืออะไร?

Hifu(High Intensity Focus Ultrasound) คือ คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก) ทำให้ผิวหนังหดตัว และเกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น

บริเวณที่จะทำ

บริเวณ กรอบหน้า ไม่จำกัดช็อต ยิงตามแพทย์ประเมิน

เห็นผลเมื่อไหร่

เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%

ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน

ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 3-4 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก

- ใช้เวลาทำประมาน 25 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง

หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

สลายไขมันแก้ม เหนียง ตัวยานวัตกรรมใหม่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ช่วยสลายไขมัน กระชับผิวหน้า ไม่ทำให้หน้าหย่อนคล้อย

บริเวณที่ทำ

แก้ม หรือ เหนียง

เห็นผลเมื่อไหร่

1-2 สัปดาห์หลังทำ

ควรทำบ่อยขนาดไหน

ผลจะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล

แนะนำ! ให้ฉีดต่อเนื่อง 3 ครั้ง(ห่าง 2 สัปดาห์ครั้ง) ผลจะอยู่ได้นาน 2-4 เดือน

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะฉีดออก

- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด

-ใช้เวลาทำประมาน 10-15 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- หลังรักษาสามารถใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ โดยทาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูแรงๆ

- 1-2 ชั่วโมงแรกพยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น

- 3-4 ชั่วโมงแรกอย่านอนราบหรือนอนตะแคง

- สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

- 2 สัปดาห์แรกงด ทำทรีตเมนท์ นวดหน้า อบซาวหน้า ทำเลเซอร์

ผลข้างเคียง

หลังการฉีดอาจเกิดรอยฟกช้ำของเข็มบ้างเล็กน้อย แต่รอยจะจางหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

Hifu ทั่วหน้า + เหนียง

Hifu คืออะไร?

Hifu(High Intensity Focus Ultrasound) คือ คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก) ทำให้ผิวหนังหดตัว และเกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น

บริเวณที่จะทำ
ทั่วหน้า + เหนียง 600 ช็อต ยิงตามแพทย์ประเมิน

เห็นผลเมื่อไหร่
เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%
ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน
ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน
แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 3-4 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ
- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก
- ใช้เวลาทำประมาน 35 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง
หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังท

Premium HIFU กรอบหน้า +เหนียง ฟรี Hifu (Hi Lift) กรอบหน้า + เหนียง ให้บริการโดยผู้ช่วย

MADE COLLAGEN มาเด้ คอลลาเจน 

สารสกัดจากธรรมชาติ ฉีดด้วยเทคนิคพิเศษ  มาเด้ 2 CC + คอลลาเจน 2 CC ฉีด 16 จุดทั่วใบหน้า ช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผิว และกระตุ้นการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลือง ช่วยลดผิวอักเสบ ลดผื่นแพ้ ลดสิว และช่วยชะลอการเสื่อมของคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้าแข็งแรง ดูสุขภาพดีขึ้น ช่วยฟื้นฟูผิวจากการโดนสารพิษ มลภาวะได้ดีขึ้น

ส่วนผสมหลัก

วิตามินรวม แร่ธาตุเอนไซม์ และเซลส์บำบัด คือ Placenta (พลาเซนต้า) และ Collagen (คอลลาเจน)

กลไกการทำงาน

1. Detoxification ตัวยาจะเข้าไปเร่งการขับสารพิษและของเสียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว ริ้วรอย ปัญหาผิวออกจากร่างกายโดยจะเข้าไปการกระตุ้นร่างกายให้ขับของเสียในร่างกายออกมา ส่งผลให้ร่ายการดูดซึมสารอาหารใหม่ๆเข้าไปบำรุงได้มากยิ่งขึ้น

2. Metabolism ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญพลังงาน และการไหลเวียนเลือดผิวจะได้รับสารอาหารที่จำเป็น ทำให้ผิวสามารถฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเองได้รวดเร็วขึ้น

3. Nutrients and Cell therapy เป็นการเติมสารอาหาร และเซลส์เนื้อเยื่อในจำนวนที่พอเหมาะที่ร่างการต้องการ ทำให้ผิวมีสุขภาพดี

4. Restructuring ปรับความสมดุลให้ผิว ทำให้ผิวสวยแข็งแรง เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ผิวจากมลภาวะและสารพิษ

-ช่วยให้สิวแห้งเร็ว

-ลดจำนวนสิว

-ลดอาการอักเสบของสิว

-ผิวกระจ่างใส

-กระชับรูขุมขน

-บำรุงผิวให้มีชีวิตชีวา

-บำรุงล้ำลึกถึงชั้นเซลล์ให้ผิวเนียนนุ่ม สดใส เปล่งปลั่ง สุขภาพดี

ควรทำบ่อยขนาดไหน

แนะนำให้กลับมาฉีดอาทิตย์ละครั้งใน 1 เดือนแรก ผลลัพธ์จะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน และหลังจากนั้นฉีดทุกๆ 2 อาทิตย์ เพื่อคงสภาพ ถ้าหากอยากรักษาสภาพผิวไปเรื่อยๆ ก็สามารถฉีดซ้ำได้

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะฉีดออก

- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด

- ใช้เวลาฉีดประมาน 10 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา งดแอลกอฮอล์

- 1-2 วันก่อนการฉีด ให้หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ AHA และสครับหน้า

- 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด ให้หยุดการใช้ยาแก้ปวด NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ

วิธีดูแลหลังทำ

-ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมทาครีมกันเเดดอย่างสม่ำเสมอ

- หลังรักษาสามารถใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ โดยทาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูแรงๆ

- สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

- 2 สัปดาห์แรกงด ทำทรีตเมนท์ นวดหน้า อบซาวหน้า ทำเลเซอร์

ผลข้างเคียง

หลังการฉีดอาจเกิดรอยฟกช้ำของเข็มบ้างเล็กน้อย แต่รอยจะจางหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

Thermage Korea คืออะไร?

เทคโนโลยีใหม่จากเกาหลี โดยใช้เครื่อง Intragen ใช้หลักการทำงานแบบเดียวกับ Thermage คือใช้คลื่นความร้อน RF โดยพลังงานจะลงลึกถึงชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแน่นฟูขึ้น ช่วยสลายไขมัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันเยอะ และผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยปัญหาผิวที่ต้องการฟื้นฟู

*ผู้ที่ไม่สามารถรับบริการนี้ได้
- ลูกค้าที่มีโรคหัวใจ
- มีเหล็กดามตามร่างกาย เช่นเคยแขนหัก, ขาหัก

เห็นผลเมื่อไหร่

เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%

ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน

ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 3-4 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก

- ใช้เวลาทำประมาน 35 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง

หลังทำอาจมีอาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

Skin Rejuvenation Booster (Repair & Healing & Anti-Ageing)

ปรับสมดุลให้ผิว ตัวยาที่นิยมฉีดมากที่สุดจากเกาหลี ตัวช่วยกระตุ้นฟื้นฟูเซลล์ผิวได้อย่างตรงจุด จากการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิว

ด้วยเทคโนโลยี PN Polynucleotide ที่เป็นสารที่สกัดจาก DNA ปลาแซลมอน(อสุจิปลาแซลมอน) ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ DNA ของมนุษย์มากที่สุด ทำให้ไม่เกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงกับผิวหน้าของเรา

ฉีดเข้าไปในผิวชั้นหนังแท้ เมื่อตัวยาถูกฉีดเข้าไปจะเชื่อมต่อกับ DNA ในร่างกายเราได้เลยโดยไม่ต้องสังเคราะห์ เซลล์ผิวของเราจะซ่อมแซมตัวเองและสร้างเนื้อเยื่อเส้นใยขึ้นมาใหม่ หรือที่เราเรียกว่า Self Regeneration

คุณสมบัติหลักๆ

ช่วยแทนที่เซลล์ที่เสื่อมสภาพ ฟื้นฟูและสร้างเซลล์ใหม่ ได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่รวมถึงเส้นใย (fibroblast)ในการสร้างคอลลาเจนในการฟื้นฟูผิว เสมือนเพิ่มเกราะป้องกันให้ผิวหน้า ให้มีวอลลุ่มมากขึ้น ยืดหยุ่นได้ดีขึ้นอีกด้วย

-ผิวเนียนละเอียด กระชับรูขุมขน แบบสาวเกาหลี

-รักษาแผลเป็นหลุมสิว เติมเต็มหลุมสิว

-ช่วยให้ผิวแข็งแรงจากภายใน

-ผิวนุ่มชุ่มชื้น ปรับสมดุลผิว

-แก้ปัญหาริ้วรอยเล็กๆบนใบหน้า

-ผิวขาวกระจ่างใส ลดการเกิดเมลานิน

-ลดความมันส่วนเกินของผิวหน้า

เหมาะกับผู้มีปัญหาผิวแบบไหน

ผู้ที่มีปัญหาผิวขาดน้ำ ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย หน้าหมองคล้ำ

บริเวณที่ฉีด

ฉีดโดยแพทย์ 2CC ทั่วใบหน้า

ควรทำบ่อยขนาดไหน

1 หลอด 2 ml ฉีดทั่วใบหน้า

1 ปี ควรฉีดให้ครบ 3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างครั้งละ 1 เดือน

หลังจากนั้น อาจ Maintain ปีละครั้ง

ผลหลังการใช้ 3 เดือน 

3 - 5 วันหลังจากครั้งที่ 1

-ผิวหน้าดีขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น

-ความมันลดลงจากการปรับสมดุลน้ำและน้ำมันบนผิว

2 - 4 สัปดาห์หลังจากครั้งที่ 2

-ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้นโดยคอลลาเจนที่สร้างขึ้นเอง

-ริ้วรอยตื้นๆจางลง

-รูขุมขนกระชับมากขึ้น

-เซลล์ผิวได้รับการฟื้นฟู ทำให้เซลล์ผิวที่ตายลดลง

4 - 6 สัปดาห์หลังจากครั้งที่ 3

-ความยืดหยุ่นของผิวดีขึ้น

-ความยืดหยุ่นของหนังแท้ดีขึ้น

-เพิ่มวอลลุ่มให้ผิวหน้าดูแน่นขึ้น

ขั้นตอนการทำ

1. ทำความสะอาดใบหน้า

2.ประคบน้ำแข็ง

3. ฉีดตัวยา 15-20 นาที

4. ทาครีมบำรุงผิว

เตรียมตัวก่อนทำ

-ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- งดแต่งหน้า 6 ชั่วโมงหลังทำ

ผลข้างเคียง

หลังการฉีดอาจเกิดรอยฟกช้ำของเข็มบ้างเล็กน้อย แต่รอยจะจางหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

Chanel Skin Booster อันดับ 1 จากเกาหลี ผ่านการรับรอง จาก Thai FDA  ตัวช่วยเติมสารบำรุงที่สำคัญต่อผิว คือ Pink Yeast (ตัวช่วยปรับสมดุลผิว) HA สูตรพิเศษ และ Multivitamin เข้มข้น สารต้านอนุมูลอิสระกว่า 50 ชนิด  ฉีดเเล้วหน้าใสขึ้น แต่งหน้าติดมากขึ้น หน้ามีความใส ดิวอี้ ความเงา ฉ่ำวาว แลดูสุขภาพดี

ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

-ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ช่วยทำความสะอาดผิว

-ซ่อมแซมเซลล์ผิว ฟื้นฟูผิว จากมลภาว ทำให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี ผิวเนียนนุ่ม กระตุ้นคอลลาเจน เพิ่มความกระชับรูขุมขน

-เสริมความชุ่มชื้น อิ่มฟูให้ผิวขั้นสุด เพิ่มความเงาฉ่ำวาว

-ผิวกระจ่างใสขึ้น ลดเลือนจุดด่างดำ รอยดำ รอยแดง ลดการอักเสบของผิว

เห็นผลเมื่อไหร่

ผลลัพธ์ห็นผลภายใน 3-4 วัน หรือบางคนภายใน 1-2 วัน

ควรทำบ่อยขนาดไหน

สามารถเข้ามาทำซ้ำได้ เดือนละ 1 ครั้ง

ขั้นตอนการทำ

-ใช้เวลาทำประมาน 15 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- งดแต่งหน้า 6 ชั่วโมงหลังทำ

ผลข้างเคียง

ไม่มี

โบท็อกซ์ริ้วรอย (เลือกทำได้ 1บริเวณ) หน้าผาก หรือ หว่างคิว หรือ ตีนกา
โบท็อกซ์ คืออะไร?
โบท็อกซ์ Botulinum toxin จะช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและทำงานน้อยลง ที่ Meko BFill เราใช้ โบท็อกซ์ ยี่ห้อ Aestox ซึ่งเป็นโบท็อกซ์อันดับ 1 นำเข้าจากเกาหลี ฉีดบริเวณที่เกิดริ้วรอย หน้าผาก หรือ ตีนกา 2 ข้าง หรือ หว่างคิ้ว ที่เกิดจากรอยพับของการทำงานจากกล้ามเนื้อ ช่วยป้องกันการก่อตัวของริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นใหม่

บริเวณที่จะทำ
สามารถเลือกได้ 1 บริเวณ หน้าผาก หรือ ตีนกา 2 ข้าง หรือ หว่างคิ้ว ฉีดตามแพทย์ประเมิน

เห็นผลเมื่อไหร่
ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ประมาณ 3-7 วัน หลังจากฉีด
จะเห็นผลสูงสุดใน 2 สัปดาห์
มีผลอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน
หากรู้สึกว่ากล้ามเนื้อเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง ก็สามารถเข้ามาฉีดซ้ำได้เลย

ขั้นตอนการทำ
- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะฉีดออก
- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด
- ใช้เวลาฉีดประมาน 10 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ
- 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา งดแอลกอฮอล์
- 1-2 วันก่อนการฉีด ให้หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ AHA และสครับหน้า
- 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด ให้หยุดการใช้ยาแก้ปวด NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
- ถ้ามีประวัติโรคเริมบริเวณริวฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนการรักษา

วิธีดูแลหลังทำ
- หลังรักษาสามารถใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ โดยทาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูแรงๆ
- 1-2 ชั่วโมงแรกพยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
- 3-4 ชั่วโมงแรกอย่านอนราบหรือนอนตะแคง
- สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้
- 2 สัปดาห์แรกงด ทำทรีตเมนท์ นวดหน้า อบซาวหน้า ทำเลเซอร์

ผลข้างเคียง
หลังการฉีดอาจเกิดรอยฟกช้ำของเข็มบ้างเล็กน้อย แต่รอยจะจางหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

*เข้ารับบริการได้เฉพาะวันจันทร์ พุธ พฤหัส เสาร์ และ อาทิตย์เท่านั้น*

Ultraformer III (อัลตร้าฟอร์มเมอร์ ทรี)
ผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก)ชั้น SMAS ทำให้เนื้อเยื้อถูกกระตุ้นสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ Ultraformer III ถูกพัฒนามาจาก HIFU รูปแบบเดิม ซึ่งจะแตกต่างด้วยเทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งคลื่นอัลตราซาวด์ลงไปสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่าเดิม สามารถปล่อยพลังงานลงไปใต้ผิวหนัง ระดับความลึกที่ 1.5 mm / 3 mm / 4.5 mm

เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น มีความปลอดภัยไม่กระทบต่อผิวหนัง ผิวหน้าดูกระชับอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม

* หัว 4.5 mm เป็นหัวที่ยิงพลังงานได้ลึกที่สุด โดยยิงลงได้ถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ชั้น SMAS ชั้นผ่าตัดดึงหน้า ชั้นนี้จะช่วยในเรื่องการยืดการหดตัวของผิวหน้า
* หัว 3.0 mm เป็นหัวยิงพลังงานที่ลึกในระดับรองลงมา โดยยิงลงได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ผิวชั้นนี้จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและจัดเซลล์อิลาสติน ทำให้ผิวดูแน่นกระชับขึ้น
* หัว 1.5 mm ยิงเก็บผิวชั้นตื้น ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจนผิวชั้นบน ลดการเกิดริ้วรอยตื้นๆที่หางตา ร่องแก้มตื้นๆ ใต้ตา มุมปาก และยังช่วยกระชับรูขุมขนด้วย

บริเวณที่จะทำ
สามารถเลือกบริเวณได้เลย 300 Shots

เห็นผลเมื่อไหร่
เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%
ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน
ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน
สามารถเข้ามาทำซ้ำได้ทุกๆ 4-6 เดือน

ขั้นตอนการทำ
- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก
- ใช้เวลาทำประมาน 25 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง
หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

* โปรโมทชั่นนี้ไม่รวมค่ายาชาหรือหัตถการอื่นเพิ่มเติม

Oligio คือ
นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ใช้ในการยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีในการใช้
คลื่นวิทยุ Monopalar RF ที่ส่งพลังงานไปยังผิวทุกชั้นพัฒนามา
เพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิวชั้นลึก
ช่วยปรับรูปหน้า ให้เรียวกระชับได้รูป เห็นผลเร็วและผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานขึ้น ระบบความเย็นและระบบสั่นจะช่วยให้สบายผิวและลดความเจ็บขณะทำและไม่ทำให้ผิวเสียหลังยิงเสร็จ

Oligio ช่อยเรื่องอะไร
- ยกกระชับใบหน้า ลงลึกถึงชั้นไขมัน
- สลายไขมันส่วนเกิน ปรับรูปหน้าให้เรียว
- ลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
- กระชับรูขุมขน ผิวแน่นขึ้น
- ยกมุมปากตก ยกคิ้ว หนังตาตก

Oligio ควรทำบ่อยขนาดไหน

แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 4-6 เดือน ( ปีละ 2 ครั้ง )
Oligio ทำพร้อมกับ Thermage วันเดียวกันได้เลย
ถ้าหากมีแพลนจะทำกลุ่มเครื่องอื่นๆต่อ เช่น Ultra Former III / Hifu Hi Lift / Premium Hifu ต้องเว้นระยะห่างจากวันที่ทำ Oligio 2 สัปดาห์

แต่ถ้าหากทำ Oligio+Ultrafomer lll ในวันเดียวกัน --> ทำได้ 
แต่ให้เลี่ยงหัว Ultrafomer lll ที่ใช้หัวที่ลงในชั้นเดียวกันกับที่ทำ Oligio

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

*เข้ารับบริการได้เฉพาะวันจันทร์ พฤหัส เสาร์ และ อาทิตย์เท่านั้น*

Ultraformer III (อัลตร้าฟอร์มเมอร์ ทรี)
ผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก)ชั้น SMAS ทำให้เนื้อเยื้อถูกกระตุ้นสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ Ultraformer III ถูกพัฒนามาจาก HIFU รูปแบบเดิม ซึ่งจะแตกต่างด้วยเทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งคลื่นอัลตราซาวด์ลงไปสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่าเดิม สามารถปล่อยพลังงานลงไปใต้ผิวหนัง ระดับความลึกที่ 1.5 mm / 3 mm / 4.5 mm

เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น มีความปลอดภัยไม่กระทบต่อผิวหนัง ผิวหน้าดูกระชับอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม

* หัว 4.5 mm เป็นหัวที่ยิงพลังงานได้ลึกที่สุด โดยยิงลงได้ถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ชั้น SMAS ชั้นผ่าตัดดึงหน้า ชั้นนี้จะช่วยในเรื่องการยืดการหดตัวของผิวหน้า
* หัว 3.0 mm เป็นหัวยิงพลังงานที่ลึกในระดับรองลงมา โดยยิงลงได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ผิวชั้นนี้จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและจัดเซลล์อิลาสติน ทำให้ผิวดูแน่นกระชับขึ้น
* หัว 1.5 mm ยิงเก็บผิวชั้นตื้น ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจนผิวชั้นบน ลดการเกิดริ้วรอยตื้นๆที่หางตา ร่องแก้มตื้นๆ ใต้ตา มุมปาก และยังช่วยกระชับรูขุมขนด้วย

บริเวณที่จะทำ
สามารถเลือกบริเวณได้เลย 200 Shots

เห็นผลเมื่อไหร่
เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%
ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน
ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน
แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 4-6 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ
- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก
- ใช้เวลาทำประมาน 25 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง
หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

* โปรโมทชั่นนี้ไม่รวมค่ายาชาหรือหัตถการอื่นเพิ่มเติม

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

*เข้ารับบริการได้เฉพาะวันจันทร์ พุธ พฤหัส เสาร์ และ อาทิตย์เท่านั้น*

Ultraformer III (อัลตร้าฟอร์มเมอร์ ทรี)
ผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก)ชั้น SMAS ทำให้เนื้อเยื้อถูกกระตุ้นสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ Ultraformer III ถูกพัฒนามาจาก HIFU รูปแบบเดิม ซึ่งจะแตกต่างด้วยเทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งคลื่นอัลตราซาวด์ลงไปสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่าเดิม สามารถปล่อยพลังงานลงไปใต้ผิวหนัง ระดับความลึกที่ 1.5 mm / 3 mm / 4.5 mm

เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น มีความปลอดภัยไม่กระทบต่อผิวหนัง ผิวหน้าดูกระชับอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม

* หัว 4.5 mm เป็นหัวที่ยิงพลังงานได้ลึกที่สุด โดยยิงลงได้ถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ชั้น SMAS ชั้นผ่าตัดดึงหน้า ชั้นนี้จะช่วยในเรื่องการยืดการหดตัวของผิวหน้า
* หัว 3.0 mm เป็นหัวยิงพลังงานที่ลึกในระดับรองลงมา โดยยิงลงได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ผิวชั้นนี้จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและจัดเซลล์อิลาสติน ทำให้ผิวดูแน่นกระชับขึ้น
* หัว 1.5 mm ยิงเก็บผิวชั้นตื้น ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจนผิวชั้นบน ลดการเกิดริ้วรอยตื้นๆที่หางตา ร่องแก้มตื้นๆ ใต้ตา มุมปาก และยังช่วยกระชับรูขุมขนด้วย

บริเวณที่จะทำ
สามารถเลือกบริเวณได้เลย 300 Shots

เห็นผลเมื่อไหร่
เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%
ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน
ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน
สามารถเข้ามาทำซ้ำได้ทุกๆ 4-6 เดือน

ขั้นตอนการทำ
- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก
- ใช้เวลาทำประมาน 25 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง
หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

* โปรโมทชั่นนี้ไม่รวมค่ายาชาหรือหัตถการอื่นเพิ่มเติม

Oligio คือ
นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ใช้ในการยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีในการใช้
คลื่นวิทยุ Monopalar RF ที่ส่งพลังงานไปยังผิวทุกชั้นพัฒนามา
เพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิวชั้นลึก
ช่วยปรับรูปหน้า ให้เรียวกระชับได้รูป เห็นผลเร็วและผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานขึ้น ระบบความเย็นและระบบสั่นจะช่วยให้สบายผิวและลดความเจ็บขณะทำและไม่ทำให้ผิวเสียหลังยิงเสร็จ

Oligio ช่อยเรื่องอะไร
- ยกกระชับใบหน้า ลงลึกถึงชั้นไขมัน
- สลายไขมันส่วนเกิน ปรับรูปหน้าให้เรียว
- ลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
- กระชับรูขุมขน ผิวแน่นขึ้น
- ยกมุมปากตก ยกคิ้ว หนังตาตก

หมายเหตุ : ทุกโปรโมชั่นของทางคลินิกหากกดซื้อ และชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถ ขอยกเลิก ขอเปลี่ยนบริการ หรือขอคืนเงินได้ทุกกรณี
- กรณีลูกค้าตั้งครรภ์ งดให้บริการทุกบริการ
- กรณีลูกค้าให้นมบุตร งดให้บริการในกลุ่มฉีดทั้งหมด
- ไม่สามารถแชร์คอร์สร่วมกับผู้อื่นได้ทุกกรณี
-----------------
Morpheus8
เทคโนโลยีทางการแพทย์รุ่นล่าสุด ที่สามารถเลือกปรับระดับความลึกของพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Multi-layer technology) ให้เหมาะสมกับชั้นผิวหนังของแต่ละ บุคคล (Adjustable Depth Fractional Radiofrequency) MO REMODELS & CONTOURS TH FACE AND BOD STIMULATES COLLAGEN “อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สามารถปล่อยพลังงานเข้าสู่ผิวได้ลึกที่สุด (Deepest FDA approved fractional technology)"

Gold coated micropins ใช้เข็มทองคำขนาดเล็กมาก หลังทำไม่เป็นสะเก็ด แค่รู้สึกผิวแห้งขึ้นเล็กน้อย แบ่งหัวออกเป็น 2 ประเภท
24 thin gold coated micropins สําหรับบริเวณใบหน้าและลำคอ
40 thin gold coated micropins สำหรับบริเวณลำตัว

ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
1.กระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ (Dermal Remodeling)
2.กระชับชั้นไขมันใต้ผิว (Subdermal Adipose Tissue Remodeling) ทําให้ใบหน้ายกกระชับ (ไม่ต้อง กลัว ใบหน้าตอบ) แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด
3.ลดเรือนริ้วรอยรอบดวงตา และช่วยเรื่องความเรียบเนียนของผิวไปพร้อมกัน (สามารถเลือกปรับระดับความ ลึกให้เหมาะสมกับทุกปัญหาผิว)
4.เพิ่ม HA (hyaluronic acid) ให้กับผิวหน้า ทําให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์เสมือนผิวเด็ก และช่วยลดเรือนริ้วรอย แห่งวัย (Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถกระตุ้นการสร้างHAผิวได้) ฟื้นฟูสภาพผิวที่เสื่อมตามกาล เวลา (Ageing skin) ให้ดูอ่อนเยาว์

Morpheus 8 ควรทำบ่อยขนาดไหน แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 5-6 เดือน ( ปีละ 2 ครั้ง )

ถ้าหากมีแพลนจะทำกลุ่มเครื่องอื่นๆต่อ เช่น Ultra Former III / Hifu Hi Lift / Premium Hifu / Thermage ต้องเว้นระยะห่างจากวันที่ทำ Morpheus 8 1 เดือน

Wink White ช่วยให้ผิวใส สีผิวสม่ำเสมอ ดูขาวมีออร่า x2 แนะนำ 3-5 ครั้งขึ้นไป วิตามินผิวฉีดได้ไม่เกิน 2 ครั้ง/สัปดาห์

Hifu คืออะไร?

Hifu(High Intensity Focus Ultrasound) คือ คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูง ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก) ทำให้ผิวหนังหดตัว และเกิดการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น

บริเวณที่จะทำ

สามารถเลือกได้ 1 บริเวณ แก้ม หรือ กรอบหน้า + เหนียง ไม่จำกัดช็อต ยิงตามแพทย์ประเมิน

เห็นผลเมื่อไหร่

เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%

ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน

ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 3-4 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก

- ใช้เวลาทำประมาน 25 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง

หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

Vitamin ของทางคลินิกมี 5 สูตร ดังนี้:

Vital Boost เหมาะกับคนเป็นหวัดง่าย ลดความอ่อนล้า เพิ่มภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยสุขภาพร่างกายให้ดีขึ้น

Aura Drip ช่วยให้ผิวใส สีผิวสม่ำเสมอ ดูขาวมีออร่า  

Detox Drip ช่วยต้านอนุมูลอิสระ, Detox สารพิษออกจากร่างกาย ช่วยให้ผิวนุ่มลื่นเนียนละเอียด 

Smooth Skin ผิวขาวกระจ่างใส

Skin Glow ผิวละเอียด เนียนนุ่ม ฉ่ำโกลว์

แนะนำ 3-5 ครั้งขึ้นไป วิตามินผิวสามารถฉีดได้ 1ครั้ง / สัปดาห์ หรือมากที่สุดไม่เกิน 2 ครั้ง /สัปดาห์ค่ะ หลังฉีด1 - 3 ครั้งแรกจะเริ่มรู้สึกผิวนุ่ม เรียบเนียนลื่นมากขึ้น และช่วยให้ไม่ป่วยง่าย

หมายเหตุ : ทุกโปรโมชั่นของทางคลินิกหากกดซื้อ และชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถ ขอยกเลิก ขอเปลี่ยนบริการ หรือขอคืนเงินได้ทุกกรณี
- กรณีลูกค้าตั้งครรภ์ งดให้บริการทุกบริการ
- กรณีลูกค้าให้นมบุตร งดให้บริการในกลุ่มฉีดทั้งหมด
- ไม่สามารถแชร์คอร์สร่วมกับผู้อื่นได้ทุกกรณี
-----------------
Morpheus8
เทคโนโลยีทางการแพทย์รุ่นล่าสุด ที่สามารถเลือกปรับระดับความลึกของพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Multi-layer technology) ให้เหมาะสมกับชั้นผิวหนังของแต่ละ บุคคล (Adjustable Depth Fractional Radiofrequency) MO REMODELS & CONTOURS TH FACE AND BOD STIMULATES COLLAGEN “อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สามารถปล่อยพลังงานเข้าสู่ผิวได้ลึกที่สุด (Deepest FDA approved fractional technology)"

Gold coated micropins ใช้เข็มทองคำขนาดเล็กมาก หลังทำไม่เป็นสะเก็ด แค่รู้สึกผิวแห้งขึ้นเล็กน้อย แบ่งหัวออกเป็น 2 ประเภท
24 thin gold coated micropins สําหรับบริเวณใบหน้าและลำคอ
40 thin gold coated micropins สำหรับบริเวณลำตัว

ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
1.กระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ (Dermal Remodeling)
2.กระชับชั้นไขมันใต้ผิว (Subdermal Adipose Tissue Remodeling) ทําให้ใบหน้ายกกระชับ (ไม่ต้อง กลัว ใบหน้าตอบ) แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด
3.ลดเรือนริ้วรอยรอบดวงตา และช่วยเรื่องความเรียบเนียนของผิวไปพร้อมกัน (สามารถเลือกปรับระดับความ ลึกให้เหมาะสมกับทุกปัญหาผิว)
4.เพิ่ม HA (hyaluronic acid) ให้กับผิวหน้า ทําให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์เสมือนผิวเด็ก และช่วยลดเรือนริ้วรอย แห่งวัย (Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถกระตุ้นการสร้างHAผิวได้) ฟื้นฟูสภาพผิวที่เสื่อมตามกาล เวลา (Ageing skin) ให้ดูอ่อนเยาว์

Morpheus 8 ควรทำบ่อยขนาดไหน แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 5-6 เดือน ( ปีละ 2 ครั้ง )

ถ้าหากมีแพลนจะทำกลุ่มเครื่องอื่นๆต่อ เช่น Ultra Former III / Hifu Hi Lift / Premium Hifu / Thermage ต้องเว้นระยะห่างจากวันที่ทำ Morpheus 8 1 เดือน

Oligio คือ
นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่ใช้ในการยกกระชับผิวด้วยเทคโนโลยีในการใช้
คลื่นวิทยุ Monopalar RF ที่ส่งพลังงานไปยังผิวทุกชั้นพัฒนามา
เพื่อแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ช่วยลดไขมันสะสมใต้ผิวชั้นลึก
ช่วยปรับรูปหน้า ให้เรียวกระชับได้รูป เห็นผลเร็วและผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานขึ้น ระบบความเย็นและระบบสั่นจะช่วยให้สบายผิวและลดความเจ็บขณะทำและไม่ทำให้ผิวเสียหลังยิงเสร็จ

Oligio ช่อยเรื่องอะไร
- ยกกระชับใบหน้า ลงลึกถึงชั้นไขมัน
- สลายไขมันส่วนเกิน ปรับรูปหน้าให้เรียว
- ลดเลือนริ้วรอย ให้ผิวดูอ่อนเยาว์
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
- กระชับรูขุมขน ผิวแน่นขึ้น
- ยกมุมปากตก ยกคิ้ว หนังตาตก

Oligio ควรทำบ่อยขนาดไหน

แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 4-6 เดือน ( ปีละ 2 ครั้ง )
Oligio ทำพร้อมกับ Thermage วันเดียวกันได้เลย
ถ้าหากมีแพลนจะทำกลุ่มเครื่องอื่นๆต่อ เช่น Ultra Former III / Hifu Hi Lift / Premium Hifu ต้องเว้นระยะห่างจากวันที่ทำ Oligio 2 สัปดาห์

แต่ถ้าหากทำ Oligio+Ultrafomer lll ในวันเดียวกัน --> ทำได้ 
แต่ให้เลี่ยงหัว Ultrafomer lll ที่ใช้หัวที่ลงในชั้นเดียวกันกับที่ทำ Oligio

*ไม่รวมทายาชา หากต้องการทายาชามีค่าบริการเพิ่มเติม 200 บาท (ชำระเพิ่มที่หน้าร้าน)*

*เข้ารับบริการได้เฉพาะวันจันทร์ พุธ พฤหัส เสาร์ และ อาทิตย์เท่านั้น*

Ultraformer III (อัลตร้าฟอร์มเมอร์ ทรี)
ผลิตคลื่นเสียงความถี่สูงที่มีความเข้มข้นสูงและเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ซึ่งทำงานโดยส่งพลังงานลงไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง(ชั้นลึก)ชั้น SMAS ทำให้เนื้อเยื้อถูกกระตุ้นสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ Ultraformer III ถูกพัฒนามาจาก HIFU รูปแบบเดิม ซึ่งจะแตกต่างด้วยเทคโนโลยี MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ที่สามารถส่งคลื่นอัลตราซาวด์ลงไปสู่ชั้นผิวได้ลึกกว่าเดิม สามารถปล่อยพลังงานลงไปใต้ผิวหนัง ระดับความลึกที่ 1.5 mm / 3 mm / 4.5 mm

เหมาะกับผู้ที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับอย่างตรงจุด ช่วยทำให้หน้าดูเรียว กรอบหน้าชัด รูขุมขนกระชับมากขึ้น มีความปลอดภัยไม่กระทบต่อผิวหนัง ผิวหน้าดูกระชับอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม

* หัว 4.5 mm เป็นหัวที่ยิงพลังงานได้ลึกที่สุด โดยยิงลงได้ถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ชั้น SMAS ชั้นผ่าตัดดึงหน้า ชั้นนี้จะช่วยในเรื่องการยืดการหดตัวของผิวหน้า
* หัว 3.0 mm เป็นหัวยิงพลังงานที่ลึกในระดับรองลงมา โดยยิงลงได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ผิวชั้นนี้จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและจัดเซลล์อิลาสติน ทำให้ผิวดูแน่นกระชับขึ้น
* หัว 1.5 mm ยิงเก็บผิวชั้นตื้น ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นคอลลาเจนผิวชั้นบน ลดการเกิดริ้วรอยตื้นๆที่หางตา ร่องแก้มตื้นๆ ใต้ตา มุมปาก และยังช่วยกระชับรูขุมขนด้วย

เห็นผลเมื่อไหร่
เห็นผลทันทีหลังทำประมาณ 30 - 40%
ผลชัดเจน 100% หลังทำ 1 เดือน
ผลการรักษาอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน
แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 4-6 เดือน เท่านั้น

ขั้นตอนการทำ
- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะทำออก
- ใช้เวลาทำประมาน 25 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ
- ปฏิบัติตัวตามปกติ

ผลข้างเคียง
หลังทำอาจมีอาการเมื่อยตึงบนบริเวณที่ทำ หรืออาการแดงของผิวหนังซึ่งอาการแดงนี้จะหายไปเองภายใน 1-2 ชม. หลังทำ

* โปรโมทชั่นนี้ไม่รวมค่ายาชาหรือหัตถการอื่นเพิ่มเติม

Thermage Korea ทั่วหน้า + เหนียง ฟรี Hifu (Hi Lift) ทั่วหน้า + เหนียง ให้บริการโดยผู้ช่วย

หมายเหตุ : ทุกโปรโมชั่นของทางคลินิกหากกดซื้อ และชำระเงินเรียบร้อยแล้วจะไม่สามารถ ขอยกเลิก ขอเปลี่ยนบริการ หรือขอคืนเงินได้ทุกกรณี
- กรณีลูกค้าตั้งครรภ์ งดให้บริการทุกบริการ
- กรณีลูกค้าให้นมบุตร งดให้บริการในกลุ่มฉีดทั้งหมด
- ไม่สามารถแชร์คอร์สร่วมกับผู้อื่นได้ทุกกรณี
-----------------
Morpheus8
เทคโนโลยีทางการแพทย์รุ่นล่าสุด ที่สามารถเลือกปรับระดับความลึกของพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Multi-layer technology) ให้เหมาะสมกับชั้นผิวหนังของแต่ละ บุคคล (Adjustable Depth Fractional Radiofrequency) MO REMODELS & CONTOURS TH FACE AND BOD STIMULATES COLLAGEN “อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สามารถปล่อยพลังงานเข้าสู่ผิวได้ลึกที่สุด (Deepest FDA approved fractional technology)"

Gold coated micropins ใช้เข็มทองคำขนาดเล็กมาก หลังทำไม่เป็นสะเก็ด แค่รู้สึกผิวแห้งขึ้นเล็กน้อย แบ่งหัวออกเป็น 2 ประเภท
24 thin gold coated micropins สําหรับบริเวณใบหน้าและลำคอ
40 thin gold coated micropins สำหรับบริเวณลำตัว

ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
1.กระตุ้นการจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนในผิวชั้นหนังแท้ (Dermal Remodeling)
2.กระชับชั้นไขมันใต้ผิว (Subdermal Adipose Tissue Remodeling) ทําให้ใบหน้ายกกระชับ (ไม่ต้อง กลัว ใบหน้าตอบ) แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยไม่ต้องผ่าตัด
3.ลดเรือนริ้วรอยรอบดวงตา และช่วยเรื่องความเรียบเนียนของผิวไปพร้อมกัน (สามารถเลือกปรับระดับความ ลึกให้เหมาะสมกับทุกปัญหาผิว)
4.เพิ่ม HA (hyaluronic acid) ให้กับผิวหน้า ทําให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์เสมือนผิวเด็ก และช่วยลดเรือนริ้วรอย แห่งวัย (Morpheus8 เป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถกระตุ้นการสร้างHAผิวได้) ฟื้นฟูสภาพผิวที่เสื่อมตามกาล เวลา (Ageing skin) ให้ดูอ่อนเยาว์

Morpheus 8 ควรทำบ่อยขนาดไหน แนะนำให้ทำอย่างต่อเนื่อง สามารถทำซ้ำได้ทุกๆ 5-6 เดือน ( ปีละ 2 ครั้ง )

ถ้าหากมีแพลนจะทำกลุ่มเครื่องอื่นๆต่อ เช่น Ultra Former III / Hifu Hi Lift / Premium Hifu / Thermage ต้องเว้นระยะห่างจากวันที่ทำ Morpheus 8 1 เดือน

สลายไขมันแก้ม เหนียง ตัวยานวัตกรรมใหม่นำเข้าจากประเทศเกาหลี ช่วยสลายไขมัน กระชับผิวหน้า ไม่ทำให้หน้าหย่อนคล้อย

บริเวณที่ทำ

แก้ม หรือ เหนียง

เห็นผลเมื่อไหร่

1-2 สัปดาห์หลังทำ

ควรทำบ่อยขนาดไหน

ผลจะอยู่ได้นาน 1-2 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล

แนะนำ! ให้ฉีดต่อเนื่อง 3 ครั้ง(ห่าง 2 สัปดาห์ครั้ง) ผลจะอยู่ได้นาน 2-4 เดือน

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะฉีดออก

- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด

-ใช้เวลาทำประมาน 10-15 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- ปฏิบัติตัวตามปกติ

วิธีดูแลหลังทำ

- หลังรักษาสามารถใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ โดยทาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูแรงๆ

- 1-2 ชั่วโมงแรกพยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น

- 3-4 ชั่วโมงแรกอย่านอนราบหรือนอนตะแคง

- สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

- 2 สัปดาห์แรกงด ทำทรีตเมนท์ นวดหน้า อบซาวหน้า ทำเลเซอร์

ผลข้างเคียง

หลังการฉีดอาจเกิดรอยฟกช้ำของเข็มบ้างเล็กน้อย แต่รอยจะจางหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

ฉีดได้เฉพาะ สาขาอโศก วันเสาร์ และ สยาม วันอาทิตย์

กระตุ้นเซลล์ในผิวหนังชั้นลึก สร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวหน้าขึ้น ส่งผลให้ผิวยกกระชับ แน่น อิ่มฟู ดูหน้าอ่อนเยาว์ โดยการกระตุ้นผ่านระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ และ อยู่ได้นานถึง 2 ปี

Sculptra คืออะไร?

-------------------------

สารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตัวแรกของโลกและตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US FDA มีการกระตุ้น Collagen Type 1 ได้สูงถึง 66.5% หลังจากการฉีดไป 3 เดือน

ทำให้ผิว กระชับ และมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ฟื้นฟูผิวจากภายในอย่างล้ำลึก ช่วยย้อนวัย ให้ผิวกลับไปดูอ่อนเยาว์

คงผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า 2 ปี

มีงานวิจัยรองรับมากกว่า 50 งานวิจัย

มีกลุ่มตัวอย่างกว่า 10,000 ราย ที่รับรอง

เรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย

ไม่ตกค้างในร่างกาย ย่อยสลายได้หมด ไร้ผลข้างเคียง

ถูกใช้อย่าง กว้างขวางกว่า 20 ปี ใน 40 ประเทศทั่วโลก

Sculptra ทํางานอย่างไร ?

1.Sculptra ถูกผสมด้วย sterile water ถูกฉีดในผิวชั้นลึก Subcutaneous

2.ผิวจะดูเติมเดิมทันทีหลังฉีด เนื่องจากปริมาตรน้ำที่ฉีดเข้าไป

3.หลังจากวีด 2-3 วัน น้ำและส่วนประกอบต่างๆ จะถูกดูดซึมเข้าร่างกาย โดยจะเหลือเพียงแค่อนุภาค Sculptra ทำให้อาจจะเห็นร่องลึก ริ้วรอยกลับมาอีกครั้งหนึ่ง

4.ต่อมา Sculptra จะเริ่มกระตุ้นผ่านระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกายโดยดึงเซลล์ Macrophages มาล้อมรอบ อนุภาคของ Sculptra จํานวนมาก และมีการส่งสัญญาณ ให้เซลล์ Fibroblast เข้ามารวมตัวกันมากขึ้น

5.Fibroblast เป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างผิวหนัง จึงทำให้ผิวมี ความแข็งแรง และกระชับ

6.ต่อมา Sculptra จะค่อยๆหายไป เหลือเพียงเส้นใยคอลลาเจนที่มาสะสมแทน และฟื้นฟูความแข็งแรง โครงสร้างผิวหนังในระยะยาว

7.ช่วยยกกระชับใบหน้าและฟื้นฟูคุณภาพผิว ยาวนาน 25 เดือน 

ผู้ที่ห้ามฉีด Sculptra

• ห้ามใช้ในผู้ที่มีประวัติภูมิไวเกินต่อส่วนประกอบใด ๆ ของผลิตภัณฑ์

• ห้ามใช้ผลิตภัณฑ์ Sculptra ที่ผสม lidocaine ในผู้ที่มีประวัติ ภูมิไวเกินต่อ lidocaine

• ห้ามใช้ในผู้ที่มีอาการแพ้อย่างรุนแรง ที่มีประวัติการแพ้แบบ anaphylaxis

• ห้ามใช้เมื่อมีรอยโรคระยะแสดงอาการ เช่น การอักเสบ (ผิวหนังที่มีผื่นขึ้น เช่น ถุงซีสต์ สิว ผื่น หรือลมพิษ) การติดเชื้อ หรือเนื้องอกในบริเวณใกล้เคียงจนกว่าจะสามารถควบคุม อาการได้

• ผู้ที่เคยเกิดหรือไวต่อการเกิดคีลอยด์หรือแผลเป็น นูน ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกัน หญิงตั้งครรภ์ / หญิงให้นมบุตร ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ หรือผู้ที่มีการใช้สาร ที่ส่งผลต่อการทางานของเกล็ดเลือด ยาละลายลิ่ม เลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด อาจเกิด อาการฟกช้า ห้อเลือด หรือมีเลือดออกเฉพาะที่

บริเวณที่ฉีด

หน้าเเก้ม กรอบหน้า ขมับ

ข้อปฏิบัติหลังฉีด

1.ประคบเจลเย็นบริเวณที่ทำการรักษาใน 24 ชม. เเรกเพื่อช่วยลดอาการบวม

2.งดเเต่งหน้า อบซาวน่า อบไอน้ำ เป็นเวลา 24 ชม.

3.เลี่ยงแสงแดดและเเสงยูวี จนกว่าอาการบวมจะหายไป

4.นวดบริเวณที่รักษา 5 นาที 5 ครั้ง ติดกัน 5 วัน วิธีการนวดสามารถสอบถามแพทย์ที่รักษาได้เลย

โบท็อกซ์ 100 U

โบท็อกซ์ คืออะไร?

โบท็อกซ์ Botulinum toxin จะช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว

ที่ Meko BFill เราใช้ โบท็อกซ์ ยี่ห้อ Aestox ซึ่งเป็นโบท็อกซ์อันดับ 1 นำเข้าจากเกาหลี

บริเวณที่จะทำ

สามารถเลือกได้เลย จำกัดภายใน 100 ยูนิต 

เห็นผลเมื่อไหร่

ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ประมาณ 3-7 วัน หลังจากฉีด

จะเห็นผลสูงสุดใน 2 สัปดาห์

มีผลอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

หากรู้สึกว่ากล้ามเนื้อเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง ก็สามารถเข้ามาฉีดซ้ำได้เลย

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะฉีดออก

- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด

- ใช้เวลาฉีดประมาน 20 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา งดแอลกอฮอล์

- 1-2 วันก่อนการฉีด ให้หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ AHA และสครับหน้า

- 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด ให้หยุดการใช้ยาแก้ปวด NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ

- ถ้ามีประวัติโรคเริมบริเวณริวฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนการรักษา

วิธีดูแลหลังทำ

- หลังรักษาสามารถใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ โดยทาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูแรงๆ

- 1-2 ชั่วโมงแรกพยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น

- 3-4 ชั่วโมงแรกอย่านอนราบหรือนอนตะแคง

- สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

- 2 สัปดาห์แรกงด ทำทรีตเมนท์ นวดหน้า อบซาวหน้า ทำเลเซอร์

ผลข้างเคียง

หลังการฉีดอาจเกิดรอยฟกช้ำของเข็มบ้างเล็กน้อย แต่รอยจะจางหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

โบท็อกซ์ คืออะไร?

โบท็อกซ์ Botulinum toxin จะช่วยยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อและทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว

ที่ Meko BFill เราใช้ โบท็อกซ์ ยี่ห้อ Nabota ซึ่งเป็นโบท็อกซ์อันดับ 1 นำเข้าจากเกาหลี

เห็นผลเมื่อไหร่

ตัวยาจะเริ่มออกฤทธิ์ประมาณ 3-7 วัน หลังจากฉีด

จะเห็นผลสูงสุดใน 2 สัปดาห์

มีผลอยู่ได้นาน 4-6 เดือน ตามแต่ละบุคคล

ควรทำบ่อยขนาดไหน

หากรู้สึกว่ากล้ามเนื้อเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง ก็สามารถเข้ามาฉีดซ้ำได้เลย

ขั้นตอนการทำ

- เช็ดเครื่องสำอางค์บริเวณที่จะฉีดออก

- ประคบเย็นบริเวณที่ฉีด

- ใช้เวลาฉีดประมาน 20 นาที

เตรียมตัวก่อนทำ

- 24 ชั่วโมง ก่อนการรักษา งดแอลกอฮอล์

- 1-2 วันก่อนการฉีด ให้หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ AHA และสครับหน้า

- 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด ให้หยุดการใช้ยาแก้ปวด NSAIDS ได้แก่ Brufen, Naproxen, Motrin วิตามินอี น้ำมันปลา จิงโกะ

เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ

- ถ้ามีประวัติโรคเริมบริเวณริวฝีปาก ควรแจ้งแพทย์ก่อนการรักษา

วิธีดูแลหลังทำ

- หลังรักษาสามารถใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงได้ โดยทาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูแรงๆ

- 1-2 ชั่วโมงแรกพยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเพื่อให้ยากระจายตัวเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น

- 3-4 ชั่วโมงแรกอย่านอนราบหรือนอนตะแคง

- สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้

- 2 สัปดาห์แรกงด ทำทรีตเมนท์ นวดหน้า อบซาวหน้า ทำเลเซอร์

ผลข้างเคียง

หลังการฉีดอาจเกิดรอยฟกช้ำของเข็มบ้างเล็กน้อย แต่รอยจะจางหายได้เองภายใน 2-3 วัน สามารถใช้ประคบเย็นในกรณีที่มีอาการแดง หรือช้ำได้