บทความนี้มีหัวข้ออะไรบ้าง

22/12/2023

[REVIEW] รีวิว! Detox Day Package (Onsen + Treatment) ที่ PAÑPURI WELLESS ย่านชิดลม

แชร์บทความนี้

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้ GoWabi Blog ได้ Loveberry Joyjee, beauty blogger สาวสวย มารีวิวการใช้บริการแช่ออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่น แพคเกจ Detox Day และ Private Onsen Pañpuri Wellness ตึกเกษร ทาวเวอร์ ชั้น 12 ใครพร้อมแล้ว เรามาอ่านกันเลยค่า! 

“จะมีที่ไหนให้เราได้แช่น้ำออนเซ็น ชมวิวเมืองชั้น 12 ได้แบบที่ Pañpuri Wellness

วันนี้จอยจะพาเพื่อน ๆ ไปสัมผัสประสบการณ์การแช่น้ำออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมทั้งขัด นวด ทำทรีทเม้นต์ เรียกได้ว่าเป็นวันแห่งการพักผ่อนอย่างแท้จริง ! ที่สำคัญ จอยมาเป็นครั้งที่ 2 แล้วด้วยล่ะ คือมันติดใจ~!

ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าจอยเคยอ่านรีวิวของคนที่มาใช้บริการออนเซ็นที่นี่ ซึ่งก็ได้ยินเสียงตอบรับที่ดีมาก ๆ จอยเองก็เคยแช่ออนเซ็นในกรุงเทพมาบ้าง เลยพอจะเปรียบเทียบได้ว่าที่นี่เป็นยังไง จอยจองบริการผ่าน Application GoWabi เหมือนเคยค่ะ เพราะได้ส่วนลดและมีดีลดี ๆ เด้งขึ้นมาตลอด

ครั้งที่แล้วเคยลองแพคเกจซิกเนเจอร์ (ออนเซ็น+สครัป+นวดน้ำมัน รวม 2 ชม.) คราวนี้เลยเลือกเป็น Detox Day + Private Onsen ซึ่งรวมเอา ออนเซ็น สครับ นวดน้ำมันตัว และนวดหน้ารวมเป็น 3 ชั่วโมงค่ะ ซึ่งแพคเกจ Detox Day ราคาปกติ 4700 ถ้าจองผ่าน GoWabi ลด 20% เหลือ 3760 บาทค่ะ และ Private Onsen ราคา 1800บาทค่ะ

ร้าน Pañpuri Wellness ตั้งอยู่ที่ เกษร ทาวเวอร์ ซึ่งเดินทางสะดวกมาก ๆ มาได้ทั้งรถส่วนตัว หรือจะนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีชิดลม แล้วเดินไปทางเซ็นทรัลเวิลด์ จะมีทางเชื่อมเดินเข้าสู่ตึกเกษรเลยค่ะ เดินผ่านเข้ามาตึกด้านหลังแล้วกดลิฟท์มาชั้น 12 ได้เลยค่ะ

เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกจะพบกับบรรยากาศ อันโอ่โถงของ Pañpuri Wellness ที่กินพื้นที่ทั้งชั้น 12 เลยค่ะ ทางร้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย ดูอบอุ่นด้วยพื้นไม้ และผนังลายหินสีขาว มีกลิ่นไอของความโมเดิร์น และหน้าต่างบานกว้าง เผยให้เห็นวิวทิวทัศน์ของตัวตึก Central World ฝั่งตรงข้ามอย่างชัดเจน

สิ่งแรกที่เราต้องทำ คือนำรองเท้าไปเก็บที่ล็อคเกอร์ทางด้านขวามือ และเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะที่ทางสปาได้เตรียมเอาไว้ให้ จากนั้นก็มานั่งจิบ Welcome Drink ซึ่งวันนี้เราได้ทานเป็น น้ำกระชายออร์แกนิค Signature ของที่นี่ค่ะ เพื่อรอกรอกรายละเอียดต่าง ๆ อย่างประวัติ หรือโรคประจำตัว(ถ้ามี) มีปัญหาที่ส่วนไหนบ้าง ต้องการให้เน้นนวดส่วนไหนเป็นพิเศษ พร้อมทั้งเลือกสครับ และสูตรน้ำมันที่จะใช้นวดตัวค่ะ

สครับมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ แบบแรกเป็นสครับกากกาแฟ (Organic Coffee Scrub) เม็ดสครับจะค่อนข้างใหญ่ (ซึ่งจอยลองขัดแล้ว เหมาะกับคนที่ต้องการขัดแบบสะใจ อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย แต่ตอนขัดแล้วหอมกาแฟมาก ๆ) เป็นซิกเนเจอร์สำหรับ Detox ผิว แบบที่สองคือ แบล็คจัสมิน (Black Jasmine) ทำมาจากกะลามะพร้าวเผาบดละเอียด จนกลายเป็นเม็ดบีดส์เล็ก ๆ ผสมกับเม็ดเกลือ Milk Sea Salt ตัวนี้จะแนะนำสำหรับคนที่มีผิวแห้ง ซึ่งจอยเลือกสูตรนี้ค่ะ! แบบที่สาม แบบสุดท้ายจะเป็นสครับมะขาม (Organic Tamarind Scrub) เม็ดบีดส์เล็กที่สุด หลาย ๆ คนคงทราบว่า มะขามมีคุณสมบัติที่ช่วยขัดให้ผิวขาวขึ้นด้วยนะ

ในส่วนของน้ำมัน มีให้เลือก 4 กลิ่น คือ Organic Lavender, Organic Rose Absolute, Organic Lemongrass และ Organic Thai Jasmin ซึ่งจอยเลือกเป็นลาเวนเดอร์ค่ะ ไม่ค่อยถนัดกลิ่นกุหลาบซักเท่าไหร่ แต่ของที่นี่เค้าหอมนะ ไม่ฉุน หรือมึนหัวเลย

หลังจากกรอกข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เทอราพิสก็จะพาเราไปยังห้องไพรเวทออนเซ็น ซึ่งจะมีบ่อออนเซ็น เตียงนวดจำนวน 2 เตียง และมีห้องน้ำส่วนตัวค่ะ

หลังจากอาบน้ำ และเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อคลุมแล้ว เราเริ่มจากการขัดทำความสะอาดเท้าก่อน ซึ่งระหว่างนั้นเทอราพิสจะนำหมอนรองคออุ่น ๆ มาประคบบ่า เพื่อเพิ่มความผ่อนคลายค่ะ

เราลงแช่ในบ่อออนเซ็นเป็นเวลา 30 นาทีค่ะ ซึ่งตรงนี้เราสามารถขอให้เทอราพิสปิดม่านลงได้ หรือถ้าเปิดไว้ก็จะสามารถชมวิวข้างนอกได้เพลิน ๆ (กระจกในช่วงเช้าที่ยังมีแสงสว่าง ด้านนอกไม่สามารถมองเข้ามาเห็นด้านในได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นช่วงกลางคืน เทอราพิสแนะนำให้ปิดม่านไว้ จะเซฟกว่าค่ะ) อุณหภูมิของน้ำจะอยู่ที่ 40-41 องศา หลังจากที่ร่างกายของเราปรับตัวได้แล้ว การแช่ในน้ำร้อน ๆ แบบนี้ทำเอาผ่อนคลายไปแทบทุกส่วน รู้สึกฟินสุด ๆ ไปเลยค่ะ

เทอราพิสจะแนะนำว่า เราไม่ควรแช่น้ำต่อเนื่องเกิน 30 นาที และต้องมีการจิบน้ำเรื่อย ๆ ซึ่งทางสปามีทั้งน้ำเย็น และน้ำอุณหภูมิห้องจัดเตรียมไว้ให้ เมื่อแช่ไปได้ซักพัก จะเริ่มสังเกตว่ามีเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้า การแช่น้ำนอกจากจะเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดแล้วนั้น ยังช่วยดีท็อกซ์ผิวไปในตัวด้วย เหงื่อแตกอย่างกับไปวิ่งมา ใจเต้นเร็วขึ้น รวมถึงผิวดูอมชมพูขึ้นมาทันที

หลังจากขึ้นจากบ่อออนเซ็น ก็มาสู่ขั้นตอนการขัดผิว เทอราพิสจะเริ่มจากการสครับผิวกาย ไล่จากขา แขน มายังตัว จากหลังพลิกมาด้านหน้า เมื่อสครับเรียบร้อยก็จะต้องไปล้างตัวที่ห้องน้ำ พอเราลูบผิวจะรู้สึกเลยว่าผิวนุ่มมากกกก ถ้าใครเลือกขัดผิวด้วยเมล็ดกาแฟก็จะรู้สึกหอม เหมือนมีบาริสต้ามาชงกาแฟอยู่ข้าง ๆ เลย

ต่อด้วยการนวดน้ำมัน เทคนิคของที่นี่ค่อนข้างมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นวดได้ตรงจุด น้ำหนักของการนวดดี สามารถบอกความต้องการได้ว่าต้องการเพิ่มหรือลดน้ำหนักการนวด เพื่อความสบาย หลังจากนวดแล้ว รู้สึกตัวโล่งไปเลยค่ะ ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของคอสนี้ คือเทอราพิสจะใช้ลูกประคบร้อน (Herbal Compress) ร่วมด้วยในการนวดบริเวณท้อง เพื่อช่วยในการดีท็อกซ์ และกระตุ้นการไหลเวียนของระบบลำไส้ ระบบขับถ่าย รวมไปถึงช่วยขับลมในช่องท้องด้วยค่ะ

นวดเพลินจนเกือบหลับไป มาต่อกันที่นวดหน้า สำหรับสาว ๆ ที่แต่งหน้ามา เทอราพิสจะเริ่มจากการคลีนผิว ก่อนจะเริ่มขั้นตอนต่อไปทีละสเต็ป นวดหน้า กดจุด มาสก์หน้า ไปจนถึงการลงเซรั่ม กันแดด และแป้งฝุ่น ทั้งนี้ใช้เวลารวมทั้งหมด 1 ชม. ผิวหน้าจะรู้สึกฟูนุ่ม เนียนละเอียดขึ้นมาทันที ความแห้งกร้านถูกแทนที่ด้วยความชุ่มชื้นของน้ำมันบำรุงเนื้อบางเบา จอยชอบตรงการนวดคลึงบริเวณคางเพื่อยกกระชับหน้าวีเชฟ กับการไล่กดจุดกระตุ้นการไหลเวียน รู้สึกสบายสุด ๆ (แถมมีการนวดศีรษะให้ด้วยในขณะมาสก์หน้า)

ปิดท้ายด้วยการปลุกร่างกายที่กำลังเคลิ้ม ๆ ด้วยกลิ่นหอมเย็นของเปปเปอร์มิ้นต์ และยูคาลิปตัส (เทอราพิสถูกับมือแล้วเอามาอังบริเวณเหนือใบหน้า) จะบอกว่ากลิ่นหอมเย็น และสดชื่นมาก ๆ ช่วยปลุกเราได้เป็นอย่างดีเลย เราไม่จำเป็นต้องอาบน้ำอีกรอบ เทอราพิสแนะนำว่าเราควรให้น้ำมันเคลือบผิวเอาไว้อย่างน้อย 2 ชม.

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นที่เรียบร้อย เราก็เดินกลับไปด้านนอก เพื่อปิดท้ายคอสด้วยผลไม้ออร์แกนิก และชาข้าวร้อน ๆ สำหรับคนอื่นที่ไม่ได้จองผ่าน GoWabi ก็มาชำระเงินหลังจากใช้บริการค่ะ ส่วนคนที่จองมาล่วงหน้าแบบจอย ก็แค่นั่งกินผลไม้สวย ๆ จิบชาเสร็จก็เดินกลับบ้านได้เลยค่ะ!

เป็นการกลับมาครั้งที่ 2 ที่ประทับใจเช่นเคย ทั้งเซอร์วิส ความสะอาด สกิลการนวดของเทอราพิส รวมไปถึงบ่อออนเซ็น จอยว่าที่นี่ทำได้ดีมาก ๆ อยากให้เพื่อน ๆ ได้มาลองสัมผัสด้วยตัวเองดูซักครั้ง ไม่ว่าจะด้วยโอกาสพิเศษ ชวนคนพิเศษมา หรืออยากหลีกหนีช่วงเวลารถติด ก็สามารถแวะมาที่นี่ได้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองแบบเราได้แน่นอนค่ะ

มาย้ำพิกัดกันอีกรอบนะคะ ร้าน Pañpuri Wellness ตั้งอยู่ในตึก เกษร ทาวเวอร์ ชั้น 12 ค่ะ สามารถเดินจากรถไฟฟ้า BTS ชิดลมได้ค่ะ ร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 22.00น. ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนสนใจแพคเกจ Detox Day และ Private Onsen  อย่าลืมจองผ่านแอพ GoWabi นะ เพื่อส่วนลดและสิทธิพิเศษมากมายเลยค้า

ขอขอบคุณ Loveberry Joyjee, beauty blogger สำหรับรีวิวนะค้า!

หากสาว ๆ กำลังหาโปรโมชั่นร้านนวดร้านดัง รีวิวแน่น พร้อมบริการ นวด นวดแผนไทย นวดน้ำมัน นวดอโรม่า นวดเท้า ออนเซ็น เลือกหาโปรโมชั่นดีๆจาก GoWabi ได้เลยค่ะ!!

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

8 เรฟผมสั้น 2024 เปลี่ยนลุคให้สวยสับ ไม่ตกเทรนด์

8 เรฟผมสั้น 2024 เปลี่ยนลุคให้สวยสับ ไม่ตกเทรนด์

รวมทรงผมสั้น 2024 ที่ไม่ว่าสาว ๆ คนไหนที่อยากตัดผมสั้นให้เข้ากับตัวเองก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นลุคน่ารัก ลุคเท่ ๆ คูล ๆ ใครชอบทรงไหนเเนะนำให้ยื่นเรฟไปให้ช่างตัดให้ด่วน ๆ เลยค่าา สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนลุค เปลี่ยนสไตล์ ทำผมสั้นยังไงไม่ให้น่าเบื่ออีกต่อไป วันนี้มีมาฝากทั้งแบบ ผมสั้นซอยทุย ผมสั้นติ่งหู หรือผมสั้นประบ่าและทรงอื่น ๆ ที่ยังไม่พูดถึงรับรองแต่ละทรงตัดแล้วดูดีขึ้นเหมือนเป็นคุณในอีกเวอร์ชั่นเเน่นอน จะมีทรงไหนที่โดนใจเพื่อน ๆ บ้างตามไปดูกันเลย

เตรียมเซฟ! 50+ ลายเล็บเจลขับผิว มือสวย ออร่าปัง ทำเเล้วลูกคุณสุด ๆ

เตรียมเซฟ! ลายเล็บเจลขับผิว มือสวย ออร่าปัง ทำเเล้วลูกคุณสุด ๆ

เพื่อน ๆ คนไหนไม่รู้จะทำเล็บสีไหนดี วันนี้ทาง GoWabi มาแจกเรฟลายเล็บเจลขับผิว ที่ทาเเล้วมือสวย ดูมีออร่า ไม่ว่าจะสีผิวไหนก็ทาได้ เพราะเรื่องความสวยความงามต้องมาเป็นที่หนึ่งต้องอัพเทรนด์อะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องการทำเล็บ ทำเล็บแบบไหนให้ไม่ซ้ำ ทาออกมาเเล้วจะสวย ดูแพงแค่ไหน ทาง GoWabi เลยถือโอกาสมาบอกต่อลายเล็บเจลขับผิวที่เราคัดมาแล้วว่าเหมาะสำหรับคุณแน่นอน จะมีลายไหนที่ทาแล้วสวย ช่วยขับผิวให้ขาวผ่องน่ามองบ้าง พร้อมแล้วตามไปดูกันเลยจ้าาาาา