สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ เคยรู้กันรึป่าวว่า ที่เราชอบนวดอยู่บ่อยๆ นอกจากความรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย คลายเครียดแล้ว เพื่อนๆ ได้รู้จัก “ประโยชน์ของการนวด” ช่วยเรื่องสุขภาพยังไง บล็อคนี้ GoWabi จะมาอธิบายให้ฟังค่ะ ไปอ่านกันเลยค่ะ แต่ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ประเภทของการนวดต่างกันยังไง คลิก “นวดแต่ละชนิด ต่างกันยังไง? ประโยชน์แต่ละชนิด“
การนวด คือ อะไร
การบำบัดและทำให้ร่างกายผ่อนคลาย โดยใช้ทักษะทางร่างกายและอุปกรณ์เสริมด้วยการ บีบ จับ คลึง รีดเส้น เหยียบ ยัน กดจุด ดัด หรือกระตุ้นด้วยการสั่น เพื่อกระตุ้นให้การทำงานของกล้ามเนื้อและระบบต่างของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ถือเป็นประเภทหนึ่งของการรักษาที่มีมายาวนาน ทั้งนี้หากคุณสงสัยว่า เมื่อใดกันนะที่ร่างกายต้องการการบำบัด ลองสังเกตดูนะคะ เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกว่าร่างกายทำงานได้ไม่ดีเหมือนเก่า เช่น รู้สึกตัวหนัก กล้ามเนื้อส่วนใดส่วนหนึ่งมีอาการเกร็งตึง เคลื่อนไหวได้ไม่คล่องแคล่วเหมือนแต่ก่อน เมื่อนั้นแสดงว่าร่างกายคุณต้องการการนวดแล้วล่ะ
วิธีนวดชนิดต่างๆ
1. การกด มักจะใช้นิ้วมือ โดยทั่วไปนิยมใช้นิ้วหัวแม่มือเป็นตัวหลัก เทคนิคการวางนิ้วอาจจะกดลงไปตรงๆ ด้วยกลางนิ้วบริเวณข้อต่อที่ 2 ไม่ใช้บริเวณปลายนิ้วกด อาจกดเพียงนิ้วเดียว หรือใช้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองวางคู่กันกดลงไปก็ได้ เทคนิคการกดนั้น มักจะใช้กับบริเวณที่เป็นจุดเฉพาะ ซึ่งจะลงน้ำหนักได้แม่นยำตรงจุด ใช้กับการนวดกล้ามเนื้อทั่วๆ ไป
2. การคลึง คือ การหมุนวนเป็นวงกลมขณะนวด พร้อมยังมีการเคลื่อนที่ไปรอบๆบริเวณนั้นด้วย โดยมักจะใช้กับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่ต้องออกแรงมากโดยใช้นิ้วมือฝ่ามือ หรือสันมือในการคลึงก็ได้ กล้ามเนื้อจะผ่อนคลายได้ดีเราจะรู้สึกสบายเป็นวิธีการที่นุ่มนวลไม่รุนแรง
3. การบีบ วิธีนี้ใช้กันอยู่บ่อยๆ คือการใช้แรงกระทำต่อกล้ามเนื้อโดยตรง ต้องการให้กล้ามเนื้อทั้งมัดนั้นมีการผ่อนคลาย มักจะใช้กับกล้ามเนื้อใหญ่ เช่น แขน ขา หลัง เป็นต้น และใช้กับกล้ามเนื้อที่มีอาการเกร็งตัวได้ดี
4. การบิด คือการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อให้ไปในแนวขวางเป็นการยึดกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และข้อต่อต่างๆ โดยจับกล้ามเนื้อให้เต็มฝ่ามือ แล้วบิดหมุนเป็นลูกคลื่นไปตามกล้ามเนื้อ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ๆ เช่น แขน ขา และหลังเป็นต้น
5. การดัด มักจะใช้กับข้อต่อที่มีการติดแข็ง หรือมีอาการขัดในข้อ เทคนิคนี้ค่อนข้างต้องใช้ความชำนาญสูงเพราะอาจเกิดอันตรายได้ง่าย ทั้งต่อเยื่อพังผืด เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ และข้อต่อ
6. การดึง เป็นการหยิบกล้ามเนื้อยืดออก มักใช้กับรายที่มีการหดรั้งของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นต่างๆ เทคนิคดึงนี้ก็ต้องใช้ความชำนาญเหมือนกัน เพราะจะเกี่ยวข้องกับข้อต่อซึ่งบริเวณที่บาดเจ็บนั้นจะอ่อนแอ และอาจฉีกขาดได้ง่าย ถ้าเราใช้แรงดึงที่มากเกินไป
7. การทุบ การเคาะ และการสับ เป็นการออกแรงอย่างเป็นจังหวะ อาจใช้กำปั้นหลวมๆ ใช้สันมือหรือใช้ฝ่ามือ เคาะสับลงไปตรงบริเวณที่ต้องการเป็นจังหวะ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ โดยมากจะใช้กับกล้ามเนื้อใหญ่ๆ เช่น หลัง คอ บ่า ไหล่ เป็นต้น
8. การเหยียบ มักใช้กับกล้ามเนื้อใหญ่ เช่น แขน ขา หลัง แต่อาจเกิดอันตรายได้ง่าย เนื่องจาก การเหยียบนั้นกะน้ำหนักได้ไม่ค่อยแม่นยำนัก มักจะออกแรงมากเกินไป ทำให้เกิดการบาดเจ็บจากการนวดขึ้นได้ ถ้าจะใช้เทคนิคนี้ต้องแน่ใจในฝีมือจริงๆ และต้องมั่นใจว่าปลอดภัยจึงจะใช้ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://thaihealthlife.com/การนวด/
ข้อดีของการนวด
- ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนคล่อง เพื่อให้เลือดสามารถนำออกซิเจน ไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกายได้อย่างทั่วถึง
- ขับของเสีย ไม่ว่าจะเป็นทางน้ำเหลือง เพื่อไม่ให้มีการสะสมของเสียไว้ในร่างกาย สุขภาพก็ดีขึ้น
- แก้อาการปวดต่างๆ เช่นปวดยอก ปวดคอ ปวดหลัง ปวดสะโพก อาการชา เนื่องจากไหลเวียนเลือดไม่ดี เป็นต้น
- ช่วยคลายการปวดเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ สลายพังผืด ที่เป็นต้นเหตุในของขัดการไหลเวียนของเลือดและทำให้เกิดการอักเสบปวดกล้ามเนื้อ
- แก้ไขในส่วนที่เป็นต้นเหตุของการเจ็บปวด ซึ่งช่วยให้การเคลื่อนไหวร่างกายให้เป็นปกติ
- เพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อ / กล้ามเนื้อ ปรับสมดุลของร่างกาย
- ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสบายอารมณ์ สุขภาพจิตดี อารมณ์สงบ นอนหลับได้ง่ายขึ้น และหายจากอาการซึมเศร้าได้
ข้อห้าม และสิ่งที่ควรระวัง
- ห้ามนวดบริเวณที่เป็นมะเร็ง, บาดเจ็บหรืออักเสบเฉียบพลัน บวม แดง ร้อน
- ห้ามนวดผู้ป่วยภาวะหลอดเลือดดำอุดตัน ภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ เป็นโรคเลือดต่าง ๆ มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำอย่างรุนแรง, นที่มีภาวะกระดูกแตก หัก ปริ ร้าว ที่ยังไม่หายดี หรือตำแหน่งที่มีการผ่าตัดกระดูกและยังไม่ประสาน, คนโรคติดเชื้อทางผิวหนังทุกชนิด, สตรีมีครรภ์ เพื่อความปลอดภัยของทารกและตัวคุณแม่เอง
- ผู้ที่มีภาวะกระดูกพรุน กระดูกบาง
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
- ผู้ที่ใส่อวัยวะเทียม
ร้านนวด แนะนำโดย GoWabi
Let’s Relax Onsen Thong Lor
เล็ทส์ รีแลกซ์ ออนเซ็น แอนด์ สปา (ทองหล่อ) มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผิวพรรณด้วยทรีตเมนต์หลากหลายสรรพคุณ ที่ถูกรังสรรค์สูตรเฉพาะมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เหมาะสมกับลูกค้าทุกสภาพผิวและทุกช่วงวัย มาพร้อมแพ็คเกจการนวดสปาหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่บริการนวดกดจุดฝ่าเท้าและฝ่ามือ, การนวดหลัง ไหล่ และศีรษะ, การประคบสมุนไพร, การพอกผิว, การขัดผิว, การนวดตัวด้วยน้ำมันหอม, การนวดตัวด้วยหินร้อน, การนวดแผนไทย 4 มือ, การอบไอน้ำสมุนไพร,ฟลอรัลบาธ, การนวดน้ำมันอุ่น นอกจากนี้ทางร้านยังมี ออนเซ็น, ขัดผิว, นวดอโรม่า, นวดเท้า บริการเหล่านี้คุณสามารถพบได้จากร้าน เล็ทส์ รีแลกซ์ ออนเซ็น แอนด์ สปาในกรุงเทพฯ
ตั้งอยู่ที่ : Grande Centre Point, สุขุมวิท 55 (เอกมัย)
เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 23:30 น.
Sunshine Spa & Massage
ร้าน Sunshine Spa & Massage ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง Thai spa และ Korean spa ด้วย ซันชายน์ สปา แอนด์ มาสสาจ เดย์สปาลักชัวรี่ ในย่านเอกมัย บรรยากาศ สงบ เป็นส่วนตัว การออกแบบดีไซน์ที่ลงตัว เหมือนอยู่ในบ้านส่วนตัว เรามีผู้ให้บริการที่ผ่านการอบรบระดับมืออาชีพ ทั้งในด้านการทำทรีทเม้นต์ และการดูแลเอาใจใส่ผู้รับบริการ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้ผ่านอย. มีคุณภาพสูง ปลอดภัยต่อผู้รับบริการ
ตั้งอยู่ที่ : ถ.เอกมัย ซอย 12
เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.
Yan Spa by X2 Vibe Bangkok Sukhumvit Hotel
ยันสปาตั้งอยู่ที่ X2 Vibe สุขุมวิท (เดินไม่กี่นาทีจากบีทีเอสอ่อนนุช) ผสมผสานภูมิปัญญาไทยโบราณกับเทคนิคที่ทันสมัยและส่วนผสมจากธรรมชาติ เป็นการรวมเทคนิคที่ทันสมัยและส่วนผสมจากธรรมชาติ Yan Spa ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ เพื่อเสนอการบริการตั้งแต่การขัดตัว,การดูแลผิวหน้า,แว็กซ์และมาสก์ไปจนถึงการนวดที่หลากหลายเช่นเทคนิคการนวดแผนไทย สวีเดนและบาหลีรวมถึงการบำบัดด้วยกลิ่นหอมการนวดด้วยหินร้อนและอื่น ๆ อีกมากมาย
ตั้งอยู่ที่ : X2 Vibe Bangkok Sukhumvit Hotel, อ่อนนุช
เวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00 – 21.00 น.
หากสาว ๆ กำลังหาโปรโมชั่นร้านนวดร้านดัง รีวิวแน่น พร้อมบริการ ฝังเข็ม ครอบแก้ว นวด นวดแผนไทย นวดน้ำมัน นวดอโรม่า นวดเท้า ออนเซ็น เลือกหาโปรโมชั่นดีๆจาก GoWabi ได้เลยค่ะ!
