Bangkok Medical Lab

17 รายการตรวจ

1. วัดความดันโลหิต/ชีพจร(Blood Pressure and Pulse)
2. วัดดัชนีมวลกาย (Body Mass Index)
3. ความสมบูรณ์ของเลือด (CBC)
4. น้ำตาลในเลือด (Glucose)
5. การทำงานของไต (BUN)
6. การทำงานของไต (Creatinine)
7. อัตราการกรองของไต (eGFR)
8. ไขมันคอเลสเตอรอล (Cholesterol)
9. ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglyceride)
10. ไขมันดี (HDL)
11. ไขมันไม่ดี (LDL)
12. การทำงานของตับ (AST)
13. การทำงานของตับ (ALT)
14. การทำงานของตับ (ALP)
15. ความเสี่ยงการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน (D-Dimer)
16. ภาวะอักเสบต่อร่างกาย และหลอดเลือด (CRP-hs)
17. ระดับวิตามินดีในเลือด (Vitamin D Total)

รายการตรวจ 27 รายการ 

- ความดันโลหิต/ชีพจร (Blood Pressure and Pulse)

- ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index)

- น้ำตาลในเลือด  (FBS)

- การทำงานของไต (BUN)

- การทำงานของไต (Creatinine)

- อัตราการกรองของไต (eGFR)

- กรดยูริคในเลือด (Uric)

- ไขมันคอเลสเตอรอล (Cholesterol)

- ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglyceride)

- ระดับไขมันดี (HDL)

- ระดับไขมันไม่ดี (LDL)

- การทำงานของตับ (SGOT)

- การทำงานของตับ (SGPT)

- การทำงานของตับ/กระดูก (ALP) 

- ระดับบิลิรูบินรวมในเลือด (Total Bilirubin)

- ระดับบิลิรูบินในเลือด (Direct Bilirubin)

- ระดับอัลบูมินในเลือด (Albumin)

- ระดับโกลบูลินในเลือด (Globulin)

- ระดับโปรตีนในเลือด (Total Protein)

- ระดับเกลือแร่ในเลือด (Na, K, CI, Co2)

- ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)

- ปัสสาวะแบบสมบูรณ์ (UA)

- สารบ่งชี้มะเร็งตับ (AFP)

- สารบ่งชี้มะเร็งลำไส้ใหญ่ (CEA)

ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจนี้

• ระยะเวลาเจาะเลือดเพื่อตรวจสุขภาพประมาณ 15 นาที

• ระยะเวลารับบริการทั้งหมดขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้รับบริการ

• สามารถทราบผลภายในเวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงหลังตรวจสุขภาพ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ส่งผลทางE-mailหรือ LINE ได้

• หลังจากได้รับผลการตรวจสุขภาพแล้ว สามารถโทรกลับมาปรึกษาเบื้องต้นกับนักเทคนิคการแพทย์ได้ ภายในเวลาทำการ

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

• งดอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดก่อนถึงเวลาตรวจประมาณ 8-12 ชั่วโมง สามารถดื่มน้ำเปล่าได้

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

• ไม่ควรนำของมีค่า เช่น เครื่องประดับ ติดตัวมาด้วย

• ควรสวมเสื้อผ้าหลวมๆ สบายตัว เพื่อความสะดวกในการตรวจ ซึ่งควรเป็นเสื้อผ้าที่เป็นชุดคนละท่อน

รายการตรวจ 41 รายการ 

- ความดันโลหิต/ชีพจร (Blood Pressure and Pulse)

- ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index)

- น้ำตาลในเลือด (FBS)

- น้ำตาลสะสม (HbA1c)

- การทำงานของไต (BUN)

- การทำงานของไต (Creatinine) 

- อัตราการกรองของไต (eGFR)

- กรดยูริคในเลือด (Uric)

- ไขมันคอเลสเตอรอล (Cholesterol)

- ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglyceride)

- ระดับไขมันดี (HDL)

- ระดับไขมันไม่ดี (LDL)

- การทำงานของตับ (SGOT)

- การทำงานของตับ (SGPT)

- การทำงานของตับ/กระดูก (ALP)

- ระดับบิลิรูบินรวมในเลือด (Total Bilirubin)

- ระดับบิลิรูบินในเลือด (Direct Bilirubin)

- ระดับอัลบูมินในเลือด (Albumin)

- ระดับโกลบูลินในเลือด (Globulin)

- ระดับโปรตีนในเลือด (Total Protein)

- ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)

- ปัสสาวะแบบสมบูรณ์ (UA)

- ระดับแมกนีเซียม (Mg)

- ระดับฟอสฟอรัส (Phosphorus)

- ระดับแคลเซียม (Calcium)

- ระดับเกลือแร่ (Na, K, CI, Co2)

- ไทรอยด์ฮอร์โมน (FreeT3, FreeT4, TSH)

- อัตราตกตะกอนเม็ดเลือดแดง (ESR)

- โปรตีนบ่งชี้ภาวะการอักเสบ (hs - CRP)

- เชื้อไวรัสตับอักเสบ บี (HBsAg)

- ภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี (HBsAb)

- เชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี (Anti-HCV)

- สารบ่งชี้มะเร็งกระเพาะอาหาร/ตับอ่อน/ปอด/ถุงน้ำดี (CA 19-9) 

- สารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA) 

- สารบ่งชี้มะเร็งตับ (AFP) 

- สารบ่งชี้มะเร็งลำไส้ใหญ่ (CEA)

ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจนี้

• ระยะเวลาเจาะเลือดเพื่อตรวจสุขภาพประมาณ 15 นาที

• ระยะเวลารับบริการทั้งหมดขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้รับบริการ

• สามารถทราบผลภายในเวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงหลังตรวจสุขภาพ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ส่งผลทางE-mailหรือ LINE ได้

• หลังจากได้รับผลการตรวจสุขภาพแล้ว สามารถโทรกลับมาปรึกษาเบื้องต้นกับนักเทคนิคการแพทย์ได้ ภายในเวลาทำการ

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

• งดอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดก่อนถึงเวลาตรวจประมาณ 8-12 ชั่วโมง สามารถดื่มน้ำเปล่าได้

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

• ไม่ควรนำของมีค่า เช่น เครื่องประดับ ติดตัวมาด้วย

• ควรสวมเสื้อผ้าหลวมๆ สบายตัว เพื่อความสะดวกในการตรวจ ซึ่งควรเป็นเสื้อผ้าที่เป็นชุดคนละท่อน

รายการตรวจ 42 รายการ 

- ความดันโลหิต/ชีพจร (Blood Pressure and Pulse)

- ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index)

- น้ำตาลในเลือด (FBS)

- น้ำตาลสะสม (HbA1c) 

- การทำงานของไต (BUN)

- การทำงานของไต (Creatinine) 

- อัตราการกรองของไต (eGFR)

- กรดยูริคในเลือด (Uric)

- ไขมันคอเลสเตอรอล (Cholesterol)

- ไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ (Triglyceride)

- ระดับไขมันดี (HDL) 

- ระดับไขมันไม่ดี (LDL)

- การทำงานของตับ (SGOT) 

- การทำงานของตับ (SGPT) 

- การทำงานของตับ/กระดูก (ALP) 

- ระดับบิลิรูบินรวมในเลือด (Total Bilirubin)

- ระดับบิลิรูบินในเลือด (Direct Bilirubin) 

- ระดับอัลบูมินในเลือด (Albumin) 

- ระดับโกลบูลินในเลือด (Globulin) 

- ระดับโปรตีนในเลือด (Total Protein) 

- ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC)

- ปัสสาวะแบบสมบูรณ์ (UA)

- ระดับแมกนีเซียม (Mg)

- ระดับฟอสฟอรัส (Phosphorus) 

- ระดับแคลเซียม (Calcium) 

- ระดับเกลือแร่ในเลือด (Na, K, CI, Co2 ) 

- อัตราตกตะกอนเม็ดเลือดแดง (ESR) 

- โปรตีนบ่งชี้ภาวะการอักเสบ (hs-CRP) 

- เชื้อไวรัสตับอักเสบ บี (HBsAg) 

- ภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี (HBsAb) 

- เชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี (Anti-HCV) 

- ไทรอยด์ฮอร์โมน (FreeT3, FreeT4, TSH)

- สารบ่งชี้มะเร็งกระเพาะอาหาร/ตับอ่อน/ปอด/ถุงน้ำดี (CA 19-9) 

- สารบ่งชี้มะเร็งรังไข่ (CA125)

- สารบ่งชี้มะเร็งเต้านม (CA153)

- สารบ่งชี้มะเร็งลำไส้ใหญ่ (CEA)

- สารบ่งชี้มะเร็งตับ (AFP)

ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจนี้

• ระยะเวลาเจาะเลือดเพื่อตรวจสุขภาพประมาณ 15 นาที

• ระยะเวลารับบริการทั้งหมดขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้รับบริการ

• สามารถทราบผลภายในเวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงหลังตรวจสุขภาพ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ส่งผลทางE-mailหรือ LINE ได้

• หลังจากได้รับผลการตรวจสุขภาพแล้ว สามารถโทรกลับมาปรึกษาเบื้องต้นกับนักเทคนิคการแพทย์ได้ ภายในเวลาทำการ

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

• งดอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดก่อนถึงเวลาตรวจประมาณ 8-12 ชั่วโมง สามารถดื่มน้ำเปล่าได้

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

• ไม่ควรนำของมีค่า เช่น เครื่องประดับ ติดตัวมาด้วย

• ควรสวมเสื้อผ้าหลวมๆ สบายตัว เพื่อความสะดวกในการตรวจ ซึ่งควรเป็นเสื้อผ้าที่เป็นชุดคนละท่อน

รายการตรวจ 20 รายการ

- ตรวจวัดชีพจรและความดันโลหิต (Blood Pressure and Pulse) 

- วัดดัชนีมวลกาย ( BMI ) 

- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ( FBS )

 - ตรวจระดับไขมันโคเลสเตอรอล ( Cholesterol ) 

- ตรวจระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ ( Triglyceride ) 

- ตรวจหาระดับไขมันความหนาแน่นสูงในเลือด ( HDL-Cholesterol ) 

- ตรวจหาระดับไขมันความหนาแน่นต่ำในเลือด ( LDL-Cholesterol ) 

- ตรวจการทำงานของไต ( BUN ) 

- ตรวจการทำงานของไต ( Creatinine )

- ตรวจการทำงานของตับ ( SGOT ) 

- ตรวจการทำงานของตับ ( SGPT ) 

- ตรวจการทำงานของตับ/กระดูก ( ALP ) 

- ตรวจกรดยูริคเพื่อดูภาวะโรคเก๊าท์ ( Uric Acid ) 

- ระดับเกลือแร่ในเลือด (Na, K, CI, Co2)

- ตรวจปัสสาวะชนิดสมบูรณ์ ( Urinalysis )

- ตรวจหาความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ( CBC )

ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจนี้

• ระยะเวลาเจาะเลือดเพื่อตรวจสุขภาพประมาณ 15 นาที

• ระยะเวลารับบริการทั้งหมดขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้รับบริการ

• สามารถทราบผลภายในเวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงหลังตรวจสุขภาพ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ส่งผลทางE-mailหรือ LINE ได้

• หลังจากได้รับผลการตรวจสุขภาพแล้ว สามารถโทรกลับมาปรึกษาเบื้องต้นกับนักเทคนิคการแพทย์ได้ ภายในเวลาทำการ

การเตรียมตัวก่อนรับบริการ

• งดอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดก่อนถึงเวลาตรวจประมาณ 8-12 ชั่วโมง สามารถดื่มน้ำเปล่าได้

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

• ไม่ควรนำของมีค่า เช่น เครื่องประดับ ติดตัวมาด้วย

• ควรสวมเสื้อผ้าหลวมๆ สบายตัว เพื่อความสะดวกในการตรวจ ซึ่งควรเป็นเสื้อผ้าที่เป็นชุดคนละท่อน

ราคานี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

• ค่าตรวจหาปริมาณภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส Anti-SARS-CoV-2s total ด้วยวิธี ECLIA 

ข้อควรรู้เกี่ยวกับแพ็กเกจนี้

• ตรวจปริมาณภูมิคุ้มกันจากตัวอย่างเลือด แจ้งผลทางอีเมลหรือ LINE จากนั้นจะมีการจัดพบแพทย์เพื่ออธิบายผล

• แพ็กเกจนี้เป็นการตรวจหาปริมาณภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส Anti-SARS-CoV-2s total ด้วยหลักการ ECLIA สำหรับผู้ที่เคยได้รับเชื้อ หรือฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว

• ค่าภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อ Spike Protein (RBD) ของเชื้อก่อโรค COVID-19 คือมากกว่าหรือเท่ากับ 0.80 U/mL

• ระยะเวลารับบริการประมาณ 5-10 นาที ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของผู้รับบริการ

• หากเคยป่วยเป็น COVID-19 และหายป่วยแล้ว สามารถรับการตรวจได้หลังจากติดเชื้อ 4-6 สัปดาห์

• หากต้องการตรวจภูมิหลังฉีดวัคซีน ผู้ที่ได้รับวัคซีน AstraZeneca สามารถตรวจได้หลังฉีดวัคซีนเข็มแรกหรือเข็มที่สองแล้ว 4-6 สัปดาห์ ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีน Sinovac หรือ Sinopharm สามารถตรวจได้หลังฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 4-6 สัปดาห์

• ระยะเวลารอผลตรวจประมาณ 4 ชั่วโมง

• ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดระดับของแอนติบอดี้ที่สามารถป้องกันการติดเชื้อ COVID-19 จำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคต

• ชาวต่างชาติสามารถตรวจได้ โดยต้องแสดงพาสปอร์ตก่อนรับบริการ

• ไม่ต้องงดเครื่องดื่มและอาหารก่อนตรวจ

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

การตรวจภูมิโควิด เป็นการตรวจระดับภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างขึ้นหลังได้รับวัคซีน หรือหลังได้รับเชื้อเท่านั้น ไม่สามารถบ่งบอกว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อได้หรือไม่ ดังนั้นแม้ผลจะออกมาว่ามีภูมิคุ้มกันแล้ว ก็ยังควรสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงที่ชุมชน เพื่อป้องกันตัวเองจากโรค COVID-19 อยู่ ข้อมูลทั่วไป

การตรวจภูมิโควิดคืออะไร?

- การตรวจภูมิโควิด คือ การตรวจหาภูมิคุ้มกันหรือการตรวจแอนติบอดี้ ว่าร่างกายของคุณมีความสามารถในการสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสขนาดไหน

- การตรวจภูมิโควิดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ การตรวจหาระดับภูมิคุ้มกัน (Binding Antibody) กับ การตรวจความสามารถของภูมิคุ้มกันในการยับยั้งไวรัส (Neutralizing Antibody)

วิธีการตรวจภูมิโควิดแบบ Binding Antibody คืออะไร?

- การตรวจแบบ Binding Antibody คือการตรวจแอนติบอดี้ที่จับกับโปรตีนแอนติเจนของเชื้อไวรัสที่ร่างกายสร้างขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนโควิดหรือหลังจากติดเชื้อ โดยจะแบ่งเป็นอีก 2 วิธีย่อย คือ CMIA และ ECLIA

1. การตรวจแบบ CMIA⠀คือการตรวจหาภูมิคุ้มกันระยะยาว (IgG Antibody) ด้วยการวัดผลเป็นหน่วย AU/mL

• หากค่า IgG มากกว่าหรือเท่ากับ 50 AU/mL คือร่างกายสร้างภูมิต้านทานไวรัสแล้ว

• หากค่า IgG น้อยกว่า 50 AU/mL คือร่างกายยังไม่มีภูมิต้านทานไวรัสข้อดีของการตรวจแบบ CMIA คือ เป็นการตรวจที่ได้มาตรฐาน WHO ค่อนข้างแม่นยำ รู้ผลเร็ว และราคาไม่สูง

2. การตรวจแบบ ECLIA⠀คือตรวจหาทั้งภูมิคุ้มกันระยะยาว (IgG Antibody) และระยะสั้น (IgM Antibody) ซึ่งอาจตรวจเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือตรวจทั้งสองอย่างก็ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ให้บริการ วัดผลเป็นหน่วย U/mL

• หากค่า IgG มากกว่าหรือเท่ากับ 1.0 U/mL คือร่างกายสร้างภูมิต้านทานไวรัสแล้ว

• หากค่า IgG น้อยกว่า 1.0 U/mL คือร่างกายยังไม่มีภูมิต้านทานไวรัสข้อดีของการตรวจภูมิโควิดด้วยวิธีแบบ ECLIA คือ เป็นการตรวจที่โรงพยาบาลส่วนมากใช้ ค่อนข้างแม่นยำ รู้ผลเร็ว และราคาไม่สูง

วิธีการตรวจภูมิโควิดแบบ Neutralizing Antibody คืออะไร?

- การตรวจแบบ Neutralizing Antibody คือการตรวจความสามารถภูมิคุ้มกันในการยับยั้งไวรัส โดยจะเจาะเลือดและนำเลือดไปทดสอบกับเชื้อ ที่เพาะไว้เพื่อทดสอบว่าแอนติบอดี้ยับยั้งเชื้อไวรัสได้มากน้อยแค่ไหน วัดผลเป็นเปอร์เซ็นต์ หากค่าที่วัดได้มากกว่า 20% จึงจะนับว่ามีภูมิคุ้มกันข้อดีของการตรวจแบบ Neutralizing Antibody (NT) คือ ผลลัพธ์ค่อนข้างแม่นยำกว่าวิธีอื่นๆ ใช้เป็นข้อมูลประกอบการเดินทางเข้าบางประเทศได้ แต่มีข้อเสียคือต้องรอผลค่อนข้างนาน และมีราคาสูง