CASA Dental Clinic

ฟอกสีฟันที่บ้านเป็นการฟอกสีฟันด้วยตัวเอง ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสามารถทำให้ฟันดูขาวขึ้นได้ด้วยตนเอง สะดวก พกพาง่าย และ ประหยัดเวลาในการทำให้ฟันขาวขึ้นโดยไม่ต้องมาพบทันตแพทย์

การตรวจเช็คสุขภาพฟันเป็นประจำจะช่วยให้สามารถป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดจากแบคทีเรียและโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทันตแพทย์จะทำการตรวจเช็คสุขภาพฟัน เหงือก และช่องปากของคุณอย่างละเอียด เพื่อประเมินสุขภาพฟันและช่องปาก หากพบสิ่งที่บกพร่องหรือต้องแก้ไข ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำก่อนเข้ารับการรักษา 

รีเทนเนอร์ คือ อุปกรณ์หรือเครื่องมือถอดได้ที่ช่วยรักษาสภาพฟันให้คงอยู่ในตำแหน่งเดิม ไม่ให้ฟันเคลื่อนตัวหลังถอดเครื่องมือจัดฟันออกไปเเล้ว ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำให้คุณใส่รีเทนเนอร์ไว้ตลอดเวลา (ยกเว้นเพียงแค่ตอนรับประทานอาหาร และตอนแปรงฟันเท่านั้น) อย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปีแรก โดยระยะเวลาที่มากหรือน้อย จะขึ้นอยู่กับลักษณะฟันของแต่ละบุคคล ในช่วงปีที่สองเป็นต้นไป คนไข้จะสวมรีเทนเนอร์เฉพาะตอนกลางคืนไปเรื่อยๆ เพื่อรักษารอยยิ้มที่สวยงามไว้

รีเทนเนอร์มี 3 ประเภท คือ

- รีเทนเนอร์แบบลวด:เป็นรีเทนเนอร์แบบถอดได้มีตัวฐานทำจากพลาสติกหรืออะคริลิก

- รีเทนเนอร์แบบใส: เป็นรีเทนเนอร์ที่ทำจากพลาสติกหรือโพลียูรีเทน 

- รีเทนเนอร์เเบบติดแน่น:ตัวรีเทนเนอร์ประกอบด้วยลวดแข็งดัดโค้งเพื่อให้พอดีกับรูปร่างของฟัน ลวดจะถูกยืดไว้บริเวณด้านในของฟัน

หากคุณมีปัญหาฟันเหลืองเราขอแนะนำ "การฟอกฟันขาว" ช่วยแก้ปัญหาฟันเหลืองให้ขาวขึ้นได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยการขจัดคราบที่อยู่ในเนื้อฟัน โดยตัวยาใช้อยู่ 2 ตัวคือ Hydrogen peroxide และ Cabamine peroxide ให้เข้าไปปรับผิวเคลือบของฟันให้ขาวขึ้น 

ปัจจุบันโปรแกรมการฟอกสีฟันที่นิยมตามคลินิกทันตกรรมมี 2 แบบคือ

- การใช้แสง LED ที่เรียกว่า Cool light

- แสงสีฟ้าที่เรียกว่า Zoom ฉายใส่ฟันเพื่อเร่งให้แตกเม็ดสีได้ดีขึ้นและทำให้ฟันขาวขึ้น

เอกซเรย์ระบบภาพ 3 มิติ หรือDental CBCT คือ การถ่ายภาพเอกซเรย์ระบบ 3 มิติ บริเวณฟัน ขากรรไกร และกะโหลกศีรษะ ได้ชัดเจนและละเอียดกว่า ระบบ 2 มิติ และใช้ปริมาณรังสีที่น้อยกว่ามาก

รีเทนเนอร์ คือ อุปกรณ์หรือเครื่องมือถอดได้ที่ช่วยรักษาสภาพฟันให้คงอยู่ในตำแหน่งเดิม ไม่ให้ฟันเคลื่อนตัวหลังถอดเครื่องมือจัดฟันออกไปเเล้ว ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำให้คุณใส่รีเทนเนอร์ไว้ตลอดเวลา (ยกเว้นเพียงแค่ตอนรับประทานอาหาร และตอนแปรงฟันเท่านั้น) อย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปีแรก โดยระยะเวลาที่มากหรือน้อย จะขึ้นอยู่กับลักษณะฟันของแต่ละบุคคล ในช่วงปีที่สองเป็นต้นไป คนไข้จะสวมรีเทนเนอร์เฉพาะตอนกลางคืนไปเรื่อยๆ เพื่อรักษารอยยิ้มที่สวยงามไว้

รีเทนเนอร์มี 3 ประเภท คือ

- รีเทนเนอร์แบบลวด:เป็นรีเทนเนอร์แบบถอดได้มีตัวฐานทำจากพลาสติกหรืออะคริลิก

- รีเทนเนอร์แบบใส: เป็นรีเทนเนอร์ที่ทำจากพลาสติกหรือโพลียูรีเทน 

- รีเทนเนอร์เเบบติดแน่น:ตัวรีเทนเนอร์ประกอบด้วยลวดแข็งดัดโค้งเพื่อให้พอดีกับรูปร่างของฟัน ลวดจะถูกยืดไว้บริเวณด้านในของฟัน

รีเทนเนอร์ คือ อุปกรณ์หรือเครื่องมือถอดได้ที่ช่วยรักษาสภาพฟันให้คงอยู่ในตำแหน่งเดิม ไม่ให้ฟันเคลื่อนตัวหลังถอดเครื่องมือจัดฟันออกไปเเล้ว ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำให้คุณใส่รีเทนเนอร์ไว้ตลอดเวลา (ยกเว้นเพียงแค่ตอนรับประทานอาหาร และตอนแปรงฟันเท่านั้น) อย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปีแรก โดยระยะเวลาที่มากหรือน้อย จะขึ้นอยู่กับลักษณะฟันของแต่ละบุคคล ในช่วงปีที่สองเป็นต้นไป คนไข้จะสวมรีเทนเนอร์เฉพาะตอนกลางคืนไปเรื่อยๆ เพื่อรักษารอยยิ้มที่สวยงามไว้

รีเทนเนอร์มี 3 ประเภท คือ

- รีเทนเนอร์แบบลวด:เป็นรีเทนเนอร์แบบถอดได้มีตัวฐานทำจากพลาสติกหรืออะคริลิก

- รีเทนเนอร์แบบใส: เป็นรีเทนเนอร์ที่ทำจากพลาสติกหรือโพลียูรีเทน 

- รีเทนเนอร์เเบบติดแน่น:ตัวรีเทนเนอร์ประกอบด้วยลวดแข็งดัดโค้งเพื่อให้พอดีกับรูปร่างของฟัน ลวดจะถูกยืดไว้บริเวณด้านในของฟัน

รีเทนเนอร์ คือ อุปกรณ์หรือเครื่องมือถอดได้ที่ช่วยรักษาสภาพฟันให้คงอยู่ในตำแหน่งเดิม ไม่ให้ฟันเคลื่อนตัวหลังถอดเครื่องมือจัดฟันออกไปเเล้ว ทันตแพทย์จัดฟันแนะนำให้คุณใส่รีเทนเนอร์ไว้ตลอดเวลา (ยกเว้นเพียงแค่ตอนรับประทานอาหาร และตอนแปรงฟันเท่านั้น) อย่างน้อย 6 เดือน – 1 ปีแรก โดยระยะเวลาที่มากหรือน้อย จะขึ้นอยู่กับลักษณะฟันของแต่ละบุคคล ในช่วงปีที่สองเป็นต้นไป คนไข้จะสวมรีเทนเนอร์เฉพาะตอนกลางคืนไปเรื่อยๆ เพื่อรักษารอยยิ้มที่สวยงามไว้

รีเทนเนอร์มี 3 ประเภท คือ

- รีเทนเนอร์แบบลวด:เป็นรีเทนเนอร์แบบถอดได้มีตัวฐานทำจากพลาสติกหรืออะคริลิก

- รีเทนเนอร์แบบใส: เป็นรีเทนเนอร์ที่ทำจากพลาสติกหรือโพลียูรีเทน 

- รีเทนเนอร์เเบบติดแน่น:ตัวรีเทนเนอร์ประกอบด้วยลวดแข็งดัดโค้งเพื่อให้พอดีกับรูปร่างของฟัน ลวดจะถูกยืดไว้บริเวณด้านในของฟัน

การตรวจเช็คสุขภาพฟันเป็นประจำจะช่วยให้สามารถป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดจากแบคทีเรียและโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทันตแพทย์จะทำการตรวจเช็คสุขภาพฟัน เหงือก และช่องปากของคุณอย่างละเอียด เพื่อประเมินสุขภาพฟันและช่องปาก หากพบสิ่งที่บกพร่องหรือต้องแก้ไข ทันตแพทย์จะให้คำแนะนำก่อนเข้ารับการรักษา