PHC Clinic

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงคอ บ่า สะบัก ไหล่ หันหรือ หมุนคอได้ไม่สุด อาการคล้ายๆนอนตกหมอน ไม่มีอาการปวดหน่วงลงแขน หรือชาร้าวลงแขน เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีอาการ หรือมีอาการปวดไม่เกิน 1 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1-2 จุด : ลงลึกถึงเนื้อเยื่อ เพื่อบรรเทาอาการปวด อักเสบ เพิ่มความยืดหยุ่น

3. เครื่อง Laser (เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง)

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด และเพิ่มความหยืดหยุ่น

6. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

7. Correct posture (ปรับท่าทาง) : แนะนำการปรับท่าทาง เช่นการท่านั่ง ท่ายืน เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดการบาดเจ็บซ้ำ

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงคอ บ่า สะบัก ไหล่ หันหรือ หมุนคอได้ไม่สุด อาการคล้ายๆนอนตกหมอน ไม่มีอาการปวดหน่วงลงแขน หรือชาร้าวลงแขน เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีอาการ หรือมีอาการปวดไม่เกิน 1 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1-2 จุด : ลงลึกถึงเนื้อเยื่อ เพื่อบรรเทาอาการปวด อักเสบ เพิ่มความยืดหยุ่น

3. เครื่อง Laser (เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง)

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด และเพิ่มความหยืดหยุ่น

6. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

7. Correct posture (ปรับท่าทาง) : แนะนำการปรับท่าทาง เช่นการท่านั่ง ท่ายืน เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดการบาดเจ็บซ้ำ

กระดูกสันหลังคอเสื่อม หมอนรองกระดูกสันหลังคอทับเส้นประสาท ปวดคอ บ่า ไหล่ สะบักจม มีชาร้าวลงแขน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงคอ บ่า สะบัก ไหล่ หันหรือ หมุนคอได้ไม่สุด อาการคล้ายๆนอนตกหมอน แรงกล้ามเนื้อแขน มือลดลง หรือเคยเกิดอุบัติเหตุคอ เช่น มีรถมาชนท้ายแล้วคอสะบัด เป็นต้น มักจะมีอาการปวดหน่วงลงแขน หรือชาร้าวลงแขน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง ปวดเป็นๆ หายๆมานานเกิน 3 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1500 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด หรือ เครื่อง Laser (เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง)

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้า) : กระตุ้นการทำงาน การเดินของเส้นประสาท ชะลอการฝ่อลีบของเส้นประสาท

6. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด และเพิ่มความหยืดหยุ่น

7. Mobilization (ขยับ ดัด ดึง ข้อต่อ) : เพื่อบรรเทาอาการปวด และเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังระดับคอ

8. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่นการยืดเส้นประสาทมาเลี้ยงแขน เป็นต้น ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

9. Correct posture (ปรับท่าทาง) : แนะนำการปรับท่าทาง เช่นการท่านั่ง ท่ายืน เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดการบาดเจ็บซ้ำ

10. Exercise / Stretching (ท่าทางบริหาร / ยืดเหยียด) : เพื่อเพิ่มความแข็งแรง หรือคลายกล้ามเนื้อ ป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ

*นักกายภาพบำบัดวิชาชีพจะเป็นผู้เลือกใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยในครั้งนั้นๆ

กระดูกสันหลังคอเสื่อม หมอนรองกระดูกสันหลังคอทับเส้นประสาท ปวดคอ บ่า ไหล่ สะบักจม มีชาร้าวลงแขน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงคอ บ่า สะบัก ไหล่ หันหรือ หมุนคอได้ไม่สุด อาการคล้ายๆนอนตกหมอน แรงกล้ามเนื้อแขน มือลดลง หรือเคยเกิดอุบัติเหตุคอ เช่น มีรถมาชนท้ายแล้วคอสะบัด เป็นต้น มักจะมีอาการปวดหน่วงลงแขน หรือชาร้าวลงแขน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง ปวดเป็นๆ หายๆมานานเกิน 3 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1500 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด หรือ เครื่อง Laser (เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง)

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้า) : กระตุ้นการทำงาน การเดินของเส้นประสาท ชะลอการฝ่อลีบของเส้นประสาท

6. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด และเพิ่มความหยืดหยุ่น

7. Mobilization (ขยับ ดัด ดึง ข้อต่อ) : เพื่อบรรเทาอาการปวด และเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังระดับคอ

8. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่นการยืดเส้นประสาทมาเลี้ยงแขน เป็นต้น ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

9. Correct posture (ปรับท่าทาง) : แนะนำการปรับท่าทาง เช่นการท่านั่ง ท่ายืน เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดการบาดเจ็บซ้ำ

10. Exercise / Stretching (ท่าทางบริหาร / ยืดเหยียด) : เพื่อเพิ่มความแข็งแรง หรือคลายกล้ามเนื้อ ป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ

*นักกายภาพบำบัดวิชาชีพจะเป็นผู้เลือกใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยในครั้งนั้นๆ

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดคอ บ่า หรือ ปวดสะบัก สะบักจม หรือปวดตึงหลังส่วนล่าง หรือปวดสะโพก ปวดกระเบนเหน็บ หรือปวดสลักเพชร หรือกล้ามเนื้อตึงตัวภายหลังออกกำลังกาย 

หรือเหมาะสำหรับผู้ที่ซื้อโปรแกรมการรักษากายภาพบำบัดอื่นๆ แล้วต้องการเพิ่มจำนวน Shot ของเครื่อง Shockwave

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 2000 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด และเพิ่มความหยืดหยุ่น

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงหลัง ก้มตัว แอ่น เอี่ยวตัวได้ไม่สุด อาการคล้ายๆ หลังเคล็ด หลังยอก หรือเกิดอุบัติเหตุต่อหลัง เช่น ลื่นล้มหลัง หรือก้นกระแทก เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มมีอาการ หรือมีอาการปวดมาได้ไม่เกิน 1 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1-2 จุด หรือ Laser (เครื่องเลเซอร์) : ลงลึกถึงเนื้อเยื่อ เพื่อบรรเทาอาการปวด อักเสบ เพิ่มความยืดหยุ่น

3. Short wave (เครื่องอบแม่เหล็กไฟฟ้า) : เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดทำให้สารอักเสบที่คั่งค้างอยู่ไหลเวียนไปกับเลือด เพิ่มความหยืดหยุ่นชั้นลึก และบรรเทาอาการปวด

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด และเพิ่มความหยืดหยุ่น

6. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่นการยืดเส้นประสาทมาเลี้ยงแขน เป็นต้น ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

7. Correct posture (ปรับท่าทาง) : แนะนำการปรับท่าทาง เช่นการท่านั่ง ยืน ยกของ เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดการบาดเจ็บซ้ำ

*นักกายภาพบำบัดวิชาชีพจะเป็นผู้เลือกใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยในครั้งนั้นๆ

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงหลัง ก้มตัว แอ่นตัวได้ไม่สุด มีเสียวแปล๊บๆที่หลัง หรือมีอาการคล้ายๆ หลังเคล็ด หลังยอก หรือเกิดอุบัติเหตุต่อหลัง เช่น ลื่นล้มหลังกระแทก เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง เคยประสบอุบัติเหตุต่อหลัง หรือปวดเป็นๆ หายๆมานาน หรือชาขา หรือขาเริ่มไม่มีแรงเกิน 3 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1500 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด หรือ เครื่อง Laser (เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง)

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้า) : กระตุ้นการทำงาน การเดินของเส้นประสาท ชะลอการฝ่อลีบของเส้นประสาท

6. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด และเพิ่มความหยืดหยุ่น

7. Mobilization (ขยับ ดัด ดึง ข้อต่อ) : เพื่อบรรเทาอาการปวด และเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของกระดูกระดับเอว

8. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่นการดึงหลัง การขยับข้อต่อ ยืดเส้นประสาทขา เป็นต้น ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

9. Correct posture (ปรับท่าทาง) : แนะนำการปรับท่าทาง เช่นการท่านั่ง ท่ายืน เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดการบาดเจ็บซ้ำ

10. Exercise / Stretching (ท่าทางบริหาร / ยืดเหยียด) : เพื่อเพิ่มความแข็งแรง หรือคลายกล้ามเนื้อ ป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ

*นักกายภาพบำบัดวิชาชีพจะเป็นผู้เลือกใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยในครั้งนั้นๆ

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงหลัง ก้มตัว แอ่นตัวได้ไม่สุด มีเสียวแปล๊บๆที่หลัง หรือมีอาการคล้ายๆ หลังเคล็ด หลังยอก หรือเกิดอุบัติเหตุต่อหลัง เช่น ลื่นล้มหลังกระแทก เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง เคยประสบอุบัติเหตุต่อหลัง หรือปวดเป็นๆ หายๆมานาน หรือชาขา หรือขาเริ่มไม่มีแรงเกิน 3 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1500 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด หรือ เครื่อง Laser (เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง)

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้า) : กระตุ้นการทำงาน การเดินของเส้นประสาท ชะลอการฝ่อลีบของเส้นประสาท

6. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด และเพิ่มความหยืดหยุ่น

7. Mobilization (ขยับ ดัด ดึง ข้อต่อ) : เพื่อบรรเทาอาการปวด และเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของกระดูกระดับเอว

8. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่นการดึงหลัง การขยับข้อต่อ ยืดเส้นประสาทขา เป็นต้น ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

9. Correct posture (ปรับท่าทาง) : แนะนำการปรับท่าทาง เช่นการท่านั่ง ท่ายืน เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดการบาดเจ็บซ้ำ

10. Exercise / Stretching (ท่าทางบริหาร / ยืดเหยียด) : เพื่อเพิ่มความแข็งแรง หรือคลายกล้ามเนื้อ ป้องกันการบาดเจ็บซ้ำ

*นักกายภาพบำบัดวิชาชีพจะเป็นผู้เลือกใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยในครั้งนั้นๆ

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงหลัง ปวดสะโพก ปวดกระเบนเหน็บ มักพบได้ในผู้ที่ขับรถทางไกลนานๆ หรือนั่งทำงานนานๆ หรือชอบนั่งไขว้ห้าง หรือออกกำลังกายยืดเหยียดไม่เพียงพอ หรือเกิดอุบัติเหตุต่อสะโพก เช่น เคยมีประวัติ หรือเพิ่งลื่นล้มก้นกระแทก เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง หรือชา เกิน 3 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1500 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด หรือ เครื่อง Laser (เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง)

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้า) : กระตุ้นการทำงาน การเดินของเส้นประสาท ชะลอการฝ่อลีบของเส้นประสาท

6. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) หรือ Short wave (เครื่องอบแม่เหล็กไฟฟ้า)

7. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่นการดึงหลัง การขยับข้อต่อ ยืดเส้นประสาทขา เป็นต้น ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

8. Correct posture (ปรับท่าทาง) : แนะนำการปรับท่าทาง เช่นการท่านั่ง ท่ายืน เป็นต้น เพื่อป้องกันการเกิดการบาดเจ็บซ้ำ

9. Exercise / Stretching (ท่าทางบริหาร / ยืดเหยียด) : เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และป้องกันการเกิดการบาดเจ็บซ้ำ

*นักกายภาพบำบัดวิชาชีพจะเป็นผู้เลือกใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยในครั้งนั้นๆ

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้นิ้วมือพิมพ์งาน เล่นโทรศัพท์ หรืออุ้มลูกเป็นเวลานานๆ มีอาการปวดบริเวณโคนนิ้วมือ หรือมีอาการสะดุดเวลางอหรือเหยียดนิ้วมือ หรือไม่สามารถเหยียดนิ้วมือได้เอง หรือมีอาการปวดบริเวณข้อมือ ข้อศอก หรือปวดบวมบริเวณข้อมือฝั่งนิ้วโป้ง หรือเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มมือยันพื้น หรือเกิดอุบัติเหตุขณะเล่นกีฬา เช่นเล่นเทนนิส ตีกอล์ฟ หรือ ออกกำลังกายนิ้วซ้น มีอาการปวดเกิน 3 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Laser (เลเซอร์) : สามารถช่วยเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ มีผลระงับอาการปวดเฉพาะที่

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด : ลงลึกถึงเนื้อเยื่อ เพื่อบรรเทาอาการปวด อักเสบ เพิ่มความยืดหยุ่น

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด และเพิ่มความหยืดหยุ่น

6. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด

7. Tape (เทปพยุงข้อ) หรือ Exercise (ท่าทางบริหาร)

*นักกายภาพบำบัดวิชาชีพจะเป็นผู้เลือกใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยในครั้งนั้นๆ

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวด ปวดเสียวข้อเข่า ยืนเดินได้ไม่นาน งอเข่าได้ไม่สุด นั่งยองไม่ได้ หรือเดินขึ้นหรือ ลงบันไดลำบาก ปวดเสียวที่ข้อเข่า หรือเคยมีประวัติอุบัติเหตุที่ข้อเข่า เอ็นข้อเข่าฉีกขาด เข่าหลวม หมอนรองข้อเข่าฉีกขาด เคยผ่าตัดข้อเข่า มีอาการมานานเกิน 3 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1000 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด หรือ เครื่อง Laser (เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง)

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) หรือ Short wave (เครื่องอบแม่เหล็กไฟฟ้า)

6. Mobilization (ขยับ ดัด ดึง ข้อต่อ) : เพื่อบรรเทาอาการปวด และเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของข้อเข่า

7. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่น การขยับข้อเข่า ยืดเส้นประสาทขา เป็นต้น ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

8. Exercise / Stretching (ท่าทางบริหาร / ยืดเหยียด) : เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และป้องกันการเกิดการบาดเจ็บซ้ำ

*นักกายภาพบำบัดวิชาชีพจะเป็นผู้เลือกใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยในครั้งนั้นๆ

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดฝ่าเท้า ใต้ฝ่าเท้า เจ็บข้อเท้า หรือเอ็นร้อยหวาย ปวดเวลายืน เดิน มีอาการบวม ช้ำม่วง ช้ำเขียวที่ข้อเท้า หรือเคยมีประวัติอุบัติเหตุที่ข้อเท้า เอ็นข้อเท้าฉีกขาด ข้อเท้าหลวม หรือเคยเกิดข้อเท้าพลิกมาก่อน หรือมีอาการปวดตึงหน้าแข้งจากการวิ่งออกกำลังกายนานๆ ต่อเนื่อง เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการมาเกิน 3 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1,500 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด หรือเครื่อง Laser (เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง)

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) 

6. Mobilization (ขยับ ดัด ดึง ข้อต่อ) : เพื่อบรรเทาอาการปวด และเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของกระดูกข้อเท้า

7. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่น การขยับข้อเท้า ยืดเส้นประสาทขา เป็นต้น ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

8. Exercise (ท่าทางบริหาร) : เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และป้องกันการเกิดการบาดเจ็บซ้ำ

*นักกายภาพบำบัดวิชาชีพจะเป็นผู้เลือกใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยในครั้งนั้นๆ

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงกล้ามเนื้อต้นขาทางด้านหลัง หรือปวดตึงต้นขาทางด้านข้าง หรือตึงน่อง จากการออกกำลังกายหนัก หรือ ขาดการยืดเหยียดไม่เพียงพอภายหลังออกกำลังกาย เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีอาการเกิน 1 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1,000 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด : ลงลึกถึงเนื้อเยื่อ เพื่อบรรเทาอาการปวด อักเสบ เพิ่มความยืดหยุ่น

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) หรือ Short wave (เครื่องอบแม่เหล็กไฟฟ้า)

6. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

7. Stretching / Exercise (ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ/ท่าทางบริหาร) : ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และแนะนำท่าทางการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

*นักกายภาพบำบัดวิชาชีพจะเป็นผู้เลือกใช้อุปกรณ์ เครื่องมือ วิธีการรักษาให้เหมาะสมกับอาการของผู้ป่วยในครั้งนั้นๆ

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงกล้ามเนื้อหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อไหล่ ข้อสะโพก ข้อเข่า หรือข้อเท้า รวมถึงผู้ที่ยังมีอาการขยับข้อต่อได้ไม่สุด ไม่เต็มช่วงการเคลื่อนไหวของข้อต่อ เช่น งอ เหยียดข้อเข่าได้ไม่สุด หรือยืนเดินได้ในระยะสั้น เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลหรือมีอาการไม่เกิน 3 เดือน

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1500 shot : เฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อที่มีปัญหา เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี 

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด หรือ เครื่อง Laser (เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง) เฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อ หรือเอ็นที่มีปัญหา

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) หรือ Short wave (เครื่องอบแม่เหล็กไฟฟ้า)

6. Mobilization (ขยับ ดัด ดึง ข้อต่อ) : เพื่อบรรเทาอาการปวด และเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของกระดูก

7. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่น การขยับข้อ ยืดเส้นประสาทขา เป็นต้น ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

8. Stretching / exercise (ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ/ออกกำลังกาย) : ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และฝึกการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ 

*เครื่องมือที่ลงลึก หรือคลื่นกระแทกต่างๆจะไม่ได้รักษาบริเวณที่มีโลหะ 

*เครื่องมืออาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ซึ่งนักกายภาพบำบัดจะเป็นผู้ตรวจประเมินอาการ และเลือกใช้

เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะกล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง หรือเกิดอัมพาตใบหน้าชั่วคราว มีอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีก เช่นหลับตาไม่สนิท ดื่มน้ำแล้วน้ำหก หรือน้ำลายไหล เป็นต้น

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้า) : กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้า 

3. Hot pack (ประคบร้อน) : เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด เพิ่มความยืดหยุ่น

4. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด ร่วมกับการนวดหน้า 

5. Exercise (ท่าทางบริหาร) : ฝึกการออกกำลังกายกล้ามเนื้อใบหน้า เพื่อเพิ่มความแข็งแรง 

6. แนะนำการดูแลตนเอง รวมถึงการบริหารตนเองที่บ้าน เพื่อผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย โดยมีสาเหตุจากหลอดเลือดสมองหรือไขสันหลัง เกิดการตีบ หรือ แตก ทำให้ร่างกายซีกใดซีกหนึ่งมีการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อลง หรือไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้ตามปกติ

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้า) : กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ 

3. Hot pack (ประคบร้อน) : เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด เพิ่มความยืดหยุ่น

4. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด ร่วมกับการนวดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด น้ำเหลือง ลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อที่แข็งเกร็ง

5. Stretching (การยืดกล้ามเนื้อ) : ยืดกล้ามเนื้อที่ตึงตัวให้คลายตัวขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ

6. Rehabilitation (การฟื้นฟู) : เป็นการฝึกการออกกำลังกายกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในด้านที่มีปัญหา รวมถึงการฝึกการขยับตัว ลุกนั่ง ฝึกระบบหายใจ ฝึกนั่ง ฝึกยืน หรือเดิน (ขั้นการฝึกตอนนี้ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย โดยนักกายภาพบำบัดจะเป็นผู้ประเมินอาการรายครั้ง)

7. แนะนำการดูแลตนเอง รวมถึงแนะนำญาติในการดูแลผู้ป่วยครั้งนั้นๆ หรือช่วงเวลานั้นๆ เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงคอ บ่า สะบัก ไหล่ หันหรือ หมุนคอได้ไม่สุด อาการคล้ายๆนอนตกหมอน มีปวดหน่วงลงแขน หรือชาร้าวลงแขน เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง ปวดเป็นๆ หายๆมานานเกิน 3 เดือน

ขั้นตอนการรักษากายภาพบำบัด

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1000 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด : ลงลึกถึงเนื้อเยื่อ เพื่อบรรเทาอาการปวด อักเสบ เพิ่มความยืดหยุ่น

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด และเพิ่มความหยืดหยุ่น

6. Mobilization (ขยับ ดัด ดึง ข้อต่อ) : เพื่อบรรเทาอาการปวด และเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังระดับคอ

7. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

ขั้นตอนการรักษาแพทย์แผนจีน

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. ฝังเข็มแบบ Dry needing : เป็นการฝังเข็มลงจุดกดเจ็บ จุดหดเกร็งของกล้ามเนื้อโดยตรง ทำให้ช่วยบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อได้ดี

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการมาเกิน 3 เดือน มักจะปวดตึงคอ บ่า สะบัก ไหล่ หันหรือ หมุนคอได้ไม่สุด อาการคล้ายๆนอนตกหมอน มีอาการร้าวขึ้นศีรษะ หรือร้าวลงแขน กลุ่มอาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้หลายปัจจัยทั้งลมปราณติดขัด การไหลเวียนเลือดไม่ดี หรือการได้รับความเย็น ความชื้น ความร้อน จากภายนอกมากระทบกับอวัยวะภายในจึงทำให้เกิดอาการปวดขึ้นได้

ขั้นตอนการรักษากายภาพบำบัด

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1500 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด : ลงลึกถึงเนื้อเยื่อ เพื่อบรรเทาอาการปวด อักเสบ เพิ่มความยืดหยุ่น

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด และเพิ่มความหยืดหยุ่น

6. Mobilization (ขยับ ดัด ดึง ข้อต่อ) : เพื่อบรรเทาอาการปวด และเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของกระดูกสันหลังระดับคอ

7. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

ขั้นตอนการรักษาแพทย์แผนจีน

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : ช่วยในการให้เลือดและลมปราณไหลเวียนดี และยังช่วยบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อชั้นที่อยู่ลึก

3. การครอบแก้ว : ช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ พังพืด ชั้นไขมัน และผิวหนัง ให้มีความยืดหยุ่น ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย และเป็นการปรับสมดุลภายในร่างกายให้การไหลเวียนเลือดดียิ่งขึ้น 

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงหลัง ก้มตัว แอ่นตัวได้ไม่สุด มีเสียวแปล๊บๆที่หลัง หรือมีอาการคล้ายๆ หลังเคล็ด หลังยอก หรือเกิดอุบัติเหตุต่อหลัง เช่น ลื่นล้มหลังกระแทก เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง เคยประสบอุบัติเหตุต่อหลัง หรือปวดเป็นๆ หายๆมานาน หรือชาขา หรือขาเริ่มไม่มีแรงเกิน 3 เดือน

ขั้นตอนการรักษากายภาพบำบัด

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1500 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด หรือ เครื่อง Laser (เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง)

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้า) : กระตุ้นการทำงาน การเดินของเส้นประสาท ชะลอการฝ่อลีบของเส้นประสาท

6. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) : กระตุ้นการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด และเพิ่มความหยืดหยุ่น

7. Mobilization (ขยับ ดัด ดึง ข้อต่อ) : เพื่อบรรเทาอาการปวด และเพิ่มช่วงการเคลื่อนไหวของกระดูกระดับเอว

8. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่นการดึงหลัง การขยับข้อต่อ ยืดเส้นประสาทขา เป็นต้น ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

ขั้นตอนการรักษาแพทย์แผนจีน

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยให้เลือดและลมปราณไหลเวียนดี และยังช่วยบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อชั้นลึกได้ดี

3. การครอบแก้ว : จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว พังพืด ชั้นไขมัน และผิวหนัง มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย และปรับสมดุลภายในร่างกายให้การไหลเวียนเลือดดียิ่งขึ้น 

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงหลัง ปวดสะโพก ปวดกระเบนเหน็บ มักพบได้ในผู้ที่ขับรถทางไกลนานๆ หรือนั่งทำงานนานๆ หรือชอบนั่งไขว้ห้าง หรือออกกำลังกายยืดเหยียดไม่เพียงพอ หรือเกิดอุบัติเหตุต่อสะโพก เช่น เคยมีประวัติ หรือเพิ่งลื่นล้มก้นกระแทก เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง หรือชา เกิน 3 เดือน

ขั้นตอนการรักษากายภาพบำบัด

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1500 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด หรือ เครื่อง Laser (เครื่องเลเซอร์พลังงานสูง)

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้า) : กระตุ้นการทำงาน การเดินของเส้นประสาท ชะลอการฝ่อลีบของเส้นประสาท

6. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) หรือ Short wave (เครื่องอบแม่เหล็กไฟฟ้า)

7. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่นการดึงหลัง การขยับข้อต่อ ยืดเส้นประสาทขา เป็นต้น ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

ขั้นตอนการรักษาแพทย์แผนจีน

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยให้เลือดและลมปราณไหลเวียนดี และยังช่วยบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อชั้นลึกได้ดี

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวด ตึง เกร็งกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อกระตุกภายหลังออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาต่อเนื่องขาดการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ หรือยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนและหลังไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะปวดตึงเกร็งหลังส่วนล่าง หรือปวดตึงขาหนีบหรือตึงกล้ามเนื้อต้นขาทางด้านหลัง หรือปวดตึงต้นขาทางด้านข้าง หรือตึงน่อง เป็นต้น

ขั้นตอนการรักษากายภาพบำบัด

1. ตรวจประเมินอาการโดยนักกายภาพบำบัด มีใบประกอบวิชาชีพ

2. Shockwave (คลื่นกระแทก) 1500 shot : เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเร่งกระบวนการซ่อมแซมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และบรรเทาอาการปวดได้ดี

3. Ultrasound (คลื่นเสียงความถี่สูง) 1 จุด : ลงลึกถึงเนื้อเยื่อ เพื่อบรรเทาอาการปวด อักเสบ เพิ่มความยืดหยุ่น

4. Electrotherapy (กระตุ้นไฟฟ้าความถี่ต่ำ หรือปานกลาง) : เพื่อบรรเทาอาการปวด

5. Hot pack / Cold pack (ประคบร้อน / เย็น) หรือ Short wave (เครื่องอบแม่เหล็กไฟฟ้า)

6. Manual therapy (หัตถการทางกายภาพบำบัด) : การรักษาด้วยเทคนิคต่างๆ ทางกายภาพบำบัด เช่นการดึงหลัง การขยับข้อต่อ ยืดเส้นประสาทขา เป็นต้น ร่วมกับกดจุดคลายกล้ามเนื้อ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และน้ำเหลือง

ขั้นตอนการรักษาแพทย์แผนจีน

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. ฝังเข็มแบบ Dry needing : เป็นการฝังเข็มลงจุดกดเจ็บ จุดหดเกร็งของกล้ามเนื้อโดยตรง ทำให้ช่วยบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อได้ดี

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเมื่อย ตึง คอ บ่า ไหล่ไม่นานไม่เกิน 1 เดือน อาการปวดเมื่อยตึงนี้เกิดได้จากหลายกลุ่มอาการ ทั้งลมปราณติดขัด การไหลเวียนเลือดไม่ดี หรือการได้รับความเย็น ความชื้น ความร้อน จากภายนอกมากระทบกับอวัยวะภายในจึงทำให้เกิดอาการปวดขึ้นได้

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยในการให้เลือดและลมปราณไหลเวียนดี นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อชั้นลึกได้ดีอีกด้วย

3. กระตุ้นไฟฟ้า : เป็นการติดขั้วกระตุ้นลงบนตัวเข็มแล้วใช้เครื่องกระตุ้นในการกระตุ้นกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการมาเกิน 3 เดือน มักจะปวดตึงคอ บ่า สะบัก ไหล่ หันหรือ หมุนคอได้ไม่สุด อาการคล้ายๆนอนตกหมอน มีอาการร้าวขึ้นศีรษะ หรือร้าวลงแขน กลุ่มอาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้หลายปัจจัยทั้งลมปราณติดขัด การไหลเวียนเลือดไม่ดี หรือการได้รับความเย็น ความชื้น ความร้อน จากภายนอกมากระทบกับอวัยวะภายในจึงทำให้เกิดอาการปวดขึ้นได้

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : ช่วยในการให้เลือดและลมปราณไหลเวียนดี และยังช่วยบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อชั้นที่อยู่ลึก

3. การครอบแก้ว : ช่วยในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ พังพืด ชั้นไขมัน และผิวหนัง ให้มีความยืดหยุ่น ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย และเป็นการปรับสมดุลภายในร่างกายให้การไหลเวียนเลือดดียิ่งขึ้น 

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงคอ บ่า สะบัก ไหล่ หันหรือ หมุนคอได้ไม่สุด อาการคล้ายๆนอนตกหมอน หรือปวดตึงกล้ามเนื้อหลังเกร็งเป็นก้อนมีจุดกดเจ็บชัดเจน มักมีอาการปวดเป็นๆหายๆ หรือกดกล้ามเนื้อแล้วมีแปล๊บ หรือปวดร้าวไปบริเวณใกล้เคียง มักมีอาการมานานเกิน 3 เดือน

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. ฝังเข็มแบบ Dry needing : เป็นการฝังเข็มลงจุดกดเจ็บ จุดหดเกร็งของกล้ามเนื้อโดยตรง ทำให้ช่วยบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อได้ดี

3. ประคบอุ่น : เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด บรรเทาอาการปวด เพิ่มความยืดหยุ่นในบริเวณที่ทำการรักษา

โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยตึงกล้ามเนื้อ ปวดหลังขณะก้มตัว แอ่นตัว เอี่ยวตัวได้ไม่สุด หรือปวดสะโพก ปวดกระเบนเหน็บหรือ ปวดเข่า เข่าเสื่อมหรือ ปวดตึงกล้ามเนื้อขา กลุ่มอาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้หลายปัจจัยทั้งลมปราณติดขัด การไหลเวียนเลือดไม่ดี หรือได้รับความเย็น ความชื้น ความร้อน จากภายนอกมากระทบกับอวัยวะภายในจึงทำให้เกิดอาการปวดขึ้นได้

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยให้เลือดและลมปราณไหลเวียนดี และยังช่วยบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อชั้นลึกได้ดี

3. กระตุ้นไฟฟ้า : จะเป็นการติดขั้วกระตุ้นลงที่ตัวเข็มเพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อให้มีการหดตัวคลายตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของมัดกล้ามเนื้อให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดตึงกล้ามเนื้อภายหลังออกกำลังกาย หรือปวดหลังขณะก้มตัว แอ่นตัว เอี่ยวตัวได้ไม่สุด หรือปวดสะโพก ปวดกระเบนเหน็บ หรือปวดตึงกล้ามเนื้อขา กลุ่มอาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้หลายปัจจัยทั้งลมปราณติดขัด การไหลเวียนเลือดไม่ดี หรือได้รับความเย็น ความชื้น ความร้อน จากภายนอกมากระทบกับอวัยวะภายในจึงทำให้เกิดอาการปวดขึ้นได้

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยให้เลือดและลมปราณไหลเวียนดี และยังช่วยบรรเทาอาการปวดในกล้ามเนื้อชั้นลึกได้ดี

3. กระตุ้นไฟฟ้า : จะเป็นการติดขั้วกระตุ้นลงที่ตัวเข็มเพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อให้มีการหดตัวคลายตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของมัดกล้ามเนื้อให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น

4. การครอบแก้ว : จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว พังพืด ชั้นไขมัน และผิวหนัง มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย และปรับสมดุลภายในร่างกายให้การไหลเวียนเลือดดียิ่งขึ้น 

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดเมื่อย ปวด เจ็บแปล๊บบริเวณโคนนิ้วมือ ข้อมือ กำมือแบมือติดขัด หรือไม่สามารถงอเหยียดนิ้วมือได้สุด หรือติดขัดขณะงอเหยียดนิ้วมือ หรือผู้ที่มีอาการปวดเมื่อยข้อมือ กระดกข้อมือแล้วมีอาการปวด 

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา

2. การฝังเข็ม : จะช่วยคลายกล้ามเนื้อและพังพืดบริเวณที่มีการยึดตึงให้มีการยืดหยุ่นที่ดีขึ้น ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดและลมปราณดีขึ้น 

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

รายละเอียด

เหมาะสำหรับผู้ที่มักมีอาการปวดศีรษะ เครียด มึนศีรษะบ่อยๆ หรือมักปวดศีรษะข้างเดียวเป็นประจำ หรือผู้ที่ต้องใช้เวลาในการเข้านอนหลับยาก ตื่นบ่อย นอนหลับๆตื่นๆ หรือมักมีปัญหาการหลับไม่สนิท ตื่นมายังรู้สึกเพลีย

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยในเรื่องการปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการปวด และยังช่วยในการไหลเวียนเลือดและลมปราณดียิ่งขึ้น นอกจากนี้การฝังเข็มยังช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้นด้วย 

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

รายละเอียด

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย แสบร้อนกลางอก เรอบ่อย เรอเปรี้ยว ผายลมบ่อย ถ่ายอุจจาระไม่ออก ถ่ายอุจจาระยากต้องใช้แรงเบ่ง 

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยในการปรับสมดุลร่างกายให้การทำงานของระบบย่อยทำงานได้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่ายให้ทำงานดีขึ้นอีกด้วย

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดประจำเดือนทุกๆเดือน ทั้งปวดมากหรือปวดน้อย หรือมีอาการปวดศีรษะร่วมด้วยในช่วงมีประจำเดือน หรือประจำเดือนมาผิดปกติ มาเยอะเกินกว่าปกติหรือมาน้อยกว่าปกติ 

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยในการปรับสมดุลร่างกายให้การไหลเวียนเลือด หรือลมปราณที่ติดขัดกลับมาไหลเวียนดี 

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยในการปรับสมดุลร่างกายให้การไหลเวียนเลือด หรือลมปราณที่ติดขัดกลับมาไหลเวียนดี 

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

เหมาะสำหรับผู้ที่มักมีอาการคล้ายเป็นหวัด คัดจมูก มีน้ำมูก จามบ่อยๆ ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง หรือช่วงที่เจอมลภาวะเยอะๆ เช่นฝุ่น PM2. 5 เป็นต้น

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยในการปรับสมดุลอวัยวะภายในซึ่งเน้นในเรื่องปรับสมดุลของปอดให้มีประสิทธิภาพในการทำงานดีมากขึ้น และจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น

3. ครอบแก้ว : จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลมปราณ กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย และยังช่วยในการนำความชื้น ความร้อน ความเย็นส่วนเกินภายในร่างกายออก

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยในการปรับสมดุลอวัยวะภายในให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีมากขึ้น และเป็นการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

3. ครอบแก้ว : จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและลมปราณ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของงร่างกาย และยังช่วยในการนำความชื้น ความร้อน ความเย็นส่วนเกินภายในร่างกายออก

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

รายละเอียด

เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวผด สิวอักเสบ รอยสิว ฝ้าแดด หน้าหมองคล้ำ ซึ่งอาจจะเกิดจากความร้อน ความชื้นสะสมภายในร่างกาย หรือการไหลเวียนเลือดไม่ดี หรือเกิดจากอวัยวะภายในทำงานไม่สมดุล

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยปรับสมดุลร่างกายกระตุ้นการไหลเวียนเลือดให้มาเลี้ยงบริเวณใบหน้ามากขึ้นทำให้ใบหน้าแลดูกระจ่างใสขึ้น ฝ้าแลดูจางลง นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และฟื้นฟูชั้นผิวหน้าให้แข็งแรงขึ้น 

3. กัวซาหน้า : จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดบริเวณใบหน้า และช่วยทำให้ใบหน้ากระชับมากขึ้น 

4. มาร์คหน้า : จะช่วยทำให้ใบหน้าชุ่มชื้น กักเก็บความชุ่มชื้นเข้าสู่ชั้นเซลล์ผิวทำให้ผิวหน้าฟูขึ้น ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

5. นวดหน้า : จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนน้ำเหลืองขับของเสียสะสมบริเวณผิวหน้า และยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าผ่อนคลาย

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดกระชับสัดส่วนรูปร่าง โดยการรักษาทางแพทย์แผนจีนจะช่วยในการลดความอยากอาหารและกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยในการปรับสมดุลร่างกายและอวัยวะภายในเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหาร กระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานดียิ่งขึ้น และยังช่วยลดความอยากอาหาร 

3. กระตุ้นไฟฟ้า : จะช่วยคลายกล้ามเนื้อ และกระตุ้นจุดฝังเข็มในบางจุดเพื่อให้ผลการรักษาดีขึ้น

4. ประคบร้อน : เป็นการคลายกล้ามเนื้อ เพิ่มการไหลเวียนเลือดทำให้รู้สึกสบายมากยิ่งขึ้น

5. ครอบแก้ว : จะช่วยในการไหลเวียนเลือดบริเวณหน้าท้อง ทำให้หน้าท้องแลดูกระชับมากขึ้น 

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการใบหน้าออกแรงครึ่งซีก หลับตาไม่สนิทข้างหนึ่ง ยกคิ้วไม่ขึ้น มุมปากตก ดื่มน้ำแล้วน้ำไหลออก อาการเหล่านี้จะเกี่ยวข้องกับเส้นประสาทใบหน้าคู่ที่7 เกิดการอักเสบ 

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. การฝังเข็ม : จะช่วยในการปรับสมดุลร่างกาย เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลมปราณ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ 

3. กระตุ้นไฟฟ้า : จะเป็นการติดขั้วกระตุ้นลงที่ตัวเข็มเพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อให้มีการหดตัวคลายตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของมัดกล้ามเนื้อให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีกจากหลอดเลือดสมองอุดตัน ตีบ แตก มุมปากตก ผู้ที่มีอาการมาไม่เกิน 6 เดือน 

ขั้นตอนการรักษา

1. ตรวจแมะวินิจฉัยอาการตามศาสตร์แพทย์แผนจีนโดยแพทย์จีนปริญญา 

2. ฝังเข็ม : จะช่วยในการปรับสมดุลร่างกาย เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลมปราณ กระตุ้นให้กล้ามเนื้อเกิดการ 

3. กระตุ้นไฟฟ้า(แล้วแต่บุคคล) : เป็นการติดขั้วกระตุ้นบนตัวเข็มเพื่อกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อทำให้มีการหดตัวคลายตัว นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของมัดกล้ามเนื้อให้กลับมาทำงานได้ปกติ

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แนะนำการรักษาที่ต่อเนื่องเพื่อประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี

*สามารถใช้บริการได้เฉพาะ วันศุกร์-อาทิตย์ เท่านั้น ให้บริการเป็นคิวคิวละ 2 ชม. (08. 00-10. 00/10. 10-12. 10/12. 30-14. 30/14. 40-16. 40/16. 50-18. 50) 

การนวดแก้อาการนี้จะเหมาะสำหรับผู้ปวดเมื่อย ปวดตึงคอ บ่า สะบัก ไหล่ หันหรือ หมุนคอได้ไม่สุด มีอาการร้าวขึ้นศีรษะ หรือร้าวลงแขน ปวดเมื่อยหลังจากการนั่งทำงานนานๆ นิ้วล๊อค ข้อติดขัด หรือยืนนานๆ แล้วปวดตึง ก้มตัว แอ่นตัวได้ไม่สุดตึง 

ขั้นตอนการนวดแก้อาการของทางคลินิก : หมอนวดจะเริ่มนวดแก้อาการของลูกค้าตามอาการที่ลูกค้าแจ้งก่อน เช่น ปวดตึงคอ บ่า ร้าวขึ้นศีรษะ โดยจะนวดแก้อาการเน้นๆ 1 ชม. หลังจากนั้นจะนวดแก้อาการ หรือนวดผ่อนคลายส่วนอื่นๆ ตั้งแต่ คอ บ่า สะบัก แขน หลัง สะโพก ขา เท้า จนครบ 2 ชม.