THAN Remedy & Wellness

การนวดเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรนได้ดีและง่ายที่สุด วิธีการนวดให้นวดบริเวณขมับ ต้นคอ และช่วงไหล่ โดยนวดไปเรื่อยๆ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายลง เส้นเลือดก็จะคลายตึง ไม่หดเกร็ง ทำให้อาการปวดศีรษะไมเกรนทุเลาลง

และฉีดบท็อกซ์ลดอาการปวดไมเกรน หลังฉีดโบท็อกไมเกรนตัวยาจะไม่ออกฤทธิ์ทันที ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3 – 4 วัน และจะออกฤทธิ์สูงสุดในสัปดาห์ที่ 2 หวังผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน จากนั้นโบท็อกจะค่อย ๆ หมดฤทธิ์ลงครับ สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ตามที่หมอแนะนำ ฉีดโบท็อกไมเกรน ช่วยลดอาการปวดศีรษะให้ทุเลาลง

*1 ท่าน/1 สิทธิ์

ลดอาการปวด, เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ โดยใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดเช่น shockwave, laser, ultrasound, electrical stimulation รวมถึงการ stretching รวมถึงออกแบบท่าออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอน

1.ตรวจประเมิณร่างกายอย่างละเอียดโดยนักกายภาพบำบัด

2.ลง shockwave, ultrasound, electrical stimulation โดยนักกายภาพจะประเมิณว่าเหมาะกับเครื่องมือใด

3.ลง laser ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

4.Stretching

5.ออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

*1 ท่าน/1 สิทธิ์

ลดอาการปวด, เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ โดยใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดเช่น shockwave, laser, ultrasound, electrical stimulation รวมถึงการ stretching รวมถึงออกแบบท่าออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอน

1.ตรวจประเมิณร่างกายอย่างละเอียดโดยนักกายภาพบำบัด

2.ลง shockwave, ultrasound, electrical stimulation โดยนักกายภาพจะประเมิณว่าเหมาะกับเครื่องมือใด

3.ลง laser ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

4.Stretching

5.ออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

*1 ท่าน/1 สิทธิ์

ลดอาการปวด, เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ โดยใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดเช่น shockwave, laser, ultrasound, electrical stimulation รวมถึงการนวด deep tissue massage รวมถึงออกแบบท่าออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอน

1.ตรวจประเมิณร่างกายอย่างละเอียดโดยนักกายภาพบำบัด

2.ลง shockwave, ultrasound, electrical stimulation โดยนักกายภาพจะประเมิณว่าเหมาะกับเครื่องมือใด

3.นวด Deep tissue เป็นการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ 25mins

4.ลง laser ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

5.Stretching

6.ออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

"*1 ท่าน/1 สิทธิ

ลดอาการปวด, เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ โดยใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดเช่น shockwave, laser, ultrasound, electrical stimulation รวมถึงการ stretching รวมถึงออกแบบท่าออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอน

1.ตรวจประเมิณร่างกายอย่างละเอียดโดยนักกายภาพบำบัด

2.ลง shockwave, ultrasound, electrical stimulation โดยนักกายภาพจะประเมิณว่าเหมาะกับเครื่องมือใด

3.ลง laser ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

4.Stretching

5.ออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

*1 ท่าน/1 สิทธิ์

ลดอาการปวด, เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ โดยใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดเช่น shockwave, laser, ultrasound, electrical stimulation รวมถึงการนวด deep tissue massage รวมถึงออกแบบท่าออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอน

1.ตรวจประเมิณร่างกายอย่างละเอียดโดยนักกายภาพบำบัด

2.ลง shockwave, ultrasound, electrical stimulation โดยนักกายภาพจะประเมิณว่าเหมาะกับเครื่องมือใด

3.นวด Deep tissue เป็นการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ 25mins

4.ลง laser ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

5.Stretching

6.ออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

*1 ท่าน/1 สิทธิ์

ลดอาการปวด, เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ โดยใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดเช่น  ultrasound, รวมถึงการนวด deep tissue massage รวมถึงออกแบบท่าออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอน

1.ตรวจประเมิณร่างกายอย่างละเอียดโดยนักกายภาพบำบัด

2.ultrasound, โดยนักกายภาพจะประเมิณว่าเหมาะกับเครื่องมือใด

3.นวด Deep tissue เป็นการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ 25mins

4.Stretching

5.ออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

*1 ท่าน/1 สิทธิ์

การบำบัดด้วยคลื่นกระแทก (shockwave) คือ คลื่นกระแทกจากคลื่นเสียงเพื่อนำมาใช้ในการรักษาอาการปวดเรื้อรัง กลไกจะเป็นการ ใช้พลังงานจากคลื่นกระแทกกระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บใหม่ (Re-injury) ในบริเวณที่อักเสบเรื้อรัง เพื่อตัดวงจรอักเสบเรื้อรังและกระตุ้นให้ร่างกายเกิดกระบวนการซ่อมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ นอกจากนี้ยังกระตุ้นการหลั่งสารลดปวดทำให้บริเวณที่ปวดดีขึ้นได้

การบำบัดด้วย shockwave นิยมใช้ในบริเวณไหน และอาการอะไรบ้าง?

เท้า – รองช้ำ (plantar fasciitis), เอ็นร้อยหวายอักเสบ (Achilles tendonitis)

ศอก – อาการเจ็บบริเวณศอก ด้านนอกหรือด้านใน (tennis elbow, golfer elbow)

ไหล่ – การการเจ็บบริเวณไหล่ (tendinosis of rotater cuff muscle)

เข่า – อาการเจ็บบริเวณเข่า (patallar tendinitis )

ขา – อาการเจ็บบริเวณหน้าแข้ง (shin splint)

ต้นขา – อาการเจ็บบริเวณต้นขาด้านนอก (iliotibial band friction syndrom)

หลัง – อาการปวดกล้ามเนื้อหลังเรื้อรัง (chronic back muscle pain)

*1 ท่าน/1 สิทธิ์

การกระตุ้นไฟฟ้ากายภาพบำบัดจะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้ดังนี้ 

-ซ่อมแซมเนื้อเยื้อ

-ลดปวด ลดบวม

-ช่วยการเคลื่อนไหว หรือ เลียนแบบการเคลื่อนไหวในผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง

-คลายกล้ามเนื้อชั้นตื้นชั้นลึก

-เพิ่มการไหลเวียนโลหิตในกล้ามเนื้อ

-เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดดำ และน้ำเหลือง

-เพิ่มความแข็งแรงในมัดกล้ามเนื้อที่มีภาวะอ่อนแรง

-เพิ่มความเร็วในการนำกระแสประสาท

-ลดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ

-กระตุ้นการซ่อมแซมแผลให้หายเร็วขึ้น

*1 ท่าน/1 สิทธิ์

ลดอาการปวด, เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ โดยใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดเช่น shockwave, laser, ultrasound, electrical stimulation รวมถึงการ stretching รวมถึงออกแบบท่าออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอน

1.ตรวจประเมิณร่างกายอย่างละเอียดโดยนักกายภาพบำบัด

2.ลง shockwave, ultrasound, electrical stimulation โดยนักกายภาพจะประเมิณว่าเหมาะกับเครื่องมือใด

3.ลง laser ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

4.Stretching

5.ออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

*1 ท่าน/1 สิทธิ์

ลดอาการปวด, เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ โดยใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดเช่น shockwave, laser, ultrasound, electrical stimulation รวมถึงการนวด deep tissue massage รวมถึงออกแบบท่าออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอน

1.ตรวจประเมิณร่างกายอย่างละเอียดโดยนักกายภาพบำบัด

2.ประคบร้อน/เย็น

3.ลง shockwave, ultrasound, electrical stimulation โดยนักกายภาพจะประเมิณว่าเหมาะกับเครื่องมือใด

4.นวด Deep tissue เป็นการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ 25mins

5.ลง laser ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

6.Stretching

7.ออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

อาการปวดหรืออักเสบตามกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ ส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการรักษาหลายสัปดาห์จนกว่าจะเห็นผลที่ชัดเจนขึ้น  แต่การกระตุ้นกล้ามเนื้อด้วยลำแสงเลเซอร์กำลังสูงจะช่วยให้การฟื้นตัวของเนื้อเยื่อรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้ใช้เวลาในการรักษาสั้นกว่ารูปแบบอื่นๆ ผู้ป่วยที่มีอาการบาดเจ็บเฉียบพลันมักเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกผู้ป่วยสามารถรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของอาการปวดอักเสบที่ลดลงทันทีอย่างน้อย 50% หลังรักษาในอาการปวดระยะเฉียบพลันจะชัดเจนมากที่สุด รักษาได้ลงลึกถึงตำแหน่งของต้นตอของกล้ามเนื้อที่อยู่ในระยะอักเสบ 

กลุ่มอาการบาดเจ็บระยะเฉียบพลัน เช่น  ปวดศีรษะไมเกรนกำเริบ,  คอเคล็ด,  หลังยอก  ข้อเท้าแพลง ,ปวดนิ้วล็อค,ข้อมือซ้น, ปวดรองช้ำ,ข้ออักเสบ, กล้ามเนื้ออักเสบ, บาดเจ็บจากเล่นกีฬา,เส้นเอ็นข้อไหล่อักเสบ ,เส้นเอ็นข้อเข่าอักเสบ

กลุ่มอาการปวดเรื้อรัง เช่น ออฟฟิศซินโดรม, ปวดคอ, ปวดบ่า, ปวดไหล่ , ปวดหลัง ,ปวดจากข้อเสื่อม หมอนรองกระดูกเคลื่อน,  ไหล่ติด ,ปวดกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้าและด้านหลัง,ปวดเอว,ปวดสะโพก, รองช้ำ 

ลดอาการปวด, เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ โดยใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดเช่น shockwave, laser, ultrasound, electrical stimulation รวมถึงการ stretching รวมถึงออกแบบท่าออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอน

1.ตรวจประเมิณร่างกายอย่างละเอียดโดยนักกายภาพบำบัด

2.ลง shockwave, ultrasound, electrical stimulation โดยนักกายภาพจะประเมิณว่าเหมาะกับเครื่องมือใด

3.ลง laser ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

4.Stretching

5.ออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

ลดอาการปวด, เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ โดยใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดเช่น shockwave, laser, ultrasound, electrical stimulation รวมถึงการ stretching รวมถึงออกแบบท่าออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอน

1.ตรวจประเมิณร่างกายอย่างละเอียดโดยนักกายภาพบำบัด

2.ลง shockwave, ultrasound, electrical stimulation โดยนักกายภาพจะประเมิณว่าเหมาะกับเครื่องมือใด

3.ลง laser ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

4.Stretching

5.ออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

ลดอาการปวด, เกร็งตัวของกล้ามเนื้อ โดยใช้เครื่องมือกายภาพบำบัดเช่น shockwave, laser, ultrasound, electrical stimulation รวมถึงการ stretching รวมถึงออกแบบท่าออกกำลังกายเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะบุคคล

ขั้นตอน

1.ตรวจประเมิณร่างกายอย่างละเอียดโดยนักกายภาพบำบัด

2.ลง shockwave, ultrasound, electrical stimulation โดยนักกายภาพจะประเมิณว่าเหมาะกับเครื่องมือใด

3.ลง laser ลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ

4.Stretching

5.ออกแบบท่าออกกำลังกายเฉพาะบุคคล

การกระตุ้นไฟฟ้ากายภาพบำบัดจะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้ดังนี้ 

- ซ่อมแซมเนื้อเยื้อ

- ลดปวด ลดบวม

- ช่วยการเคลื่อนไหว หรือ เลียนแบบการเคลื่อนไหวในผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เอง

- คลายกล้ามเนื้อชั้นตื้นชั้นลึก

- เพิ่มการไหลเวียนโลหิตในกล้ามเนื้อ

- เพิ่มการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดดำ และน้ำเหลือง

- เพิ่มความแข็งแรงในมัดกล้ามเนื้อที่มีภาวะอ่อนแรง

- เพิ่มความเร็วในการนำกระแสประสาท

- ลดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ

- กระตุ้นการซ่อมแซมแผลให้หายเร็วขึ้น

ปรึกษาแพทย์