บทความนี้มีหัวข้ออะไรบ้าง

10 สัญญาณอันตราย ฟันผุถึงโพรงประสาทฟันอาการอย่างไร

แชร์บทความนี้

10 สัญญาณอันตราย ฟันผุถึงโพรงประสาทฟันอาการอย่างไร จะมีวิธีสังเกตอย่างไรบ้าง บางครั้งฟันผุเริ่มแรกอาจจะไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมาให้เห็นเลย กว่าจะรู้ตัวฟันผุก็ลงลึกไปถึงชั้นโพรงประสาทฟันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าหากปล่อยทิ้งเอาไว้ไม่สามารถรักษาได้โดยการอุดฟันธรรมดา ต้องทำการรักษารากฟันซึ่งราคาและเวลาที่ต้องเสียไปไม่ใช่น้อย ๆ  เลย GoWabi ขอแชร์วิธีสังเกตง่าย ๆ อาการฟันผุถึงโพรงประสาทฟันจะมีอาการอย่างไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่าา

โครงสร้างของฟัน

ฟันประกอบไปด้วยชั้นทั้งหมด 3 ชั้น ซึ่งเมื่อมีฟันผุแรกเริ่ม แบคทีเรียจะผลิตกรดออกมาทำลายชั้นเคลือบผิวฟัน (enamel) ซึ่งมีความแข็งที่สุด ทำให้เป็นโพรงหรือรูไปจนถึงชั้นเนื้อฟัน (dentin) ซึ่งมีความนิ่มกว่า มีเส้นประสาทอยู่ที่ชั้นนี้จึงทำให้บางคนเกิดอาการเสียวฟัน เมื่อเวลาผ่านไปฟันผุจะเข้าไปจนถึงชั้นโพรงประสาทฟัน (dental pulp) ในชั้นนี้เป็นศูนย์รวมของเส้นประสาทและหลอดเลือดจำนวนมาก

อ่านเพิ่มเติม นอกจากเคี้ยวอาหารแล้วหน้าที่ของฟันมีอะไรอีกบ้าง?

โดยการอักเสบของเนื้อเยื่อในชั้นนี้สามารถเกิดขึ้นได้ 2 แบบก็คือ เนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับได้ (reversible pulpitis) หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธีจะสามารถซ่อมแซมฟันให้กลับมาเป็นปกติได้ และ เนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับไม่ได้ (irreversible pulpitis) โพรงประสาทฟันไม่สามารถรักษาตัวเองได้ เกิดการตายของเซลล์ในโพรงประสาทฟัน และอาจเกิดการติดเชื้อไปยังกระดูกและอวัยวะใกล้เคียงได้ 

โดยอาการที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากเกิดความเสียหายเนื้อเยื่อในโพรงประสาทฟันก็คือ

ฟันผุถึงโพรงประสาทฟันอาการอย่างไร

1.เสียวฟันเมื่อทานของหวาน

ใครที่ชอบทานของหวานแล้วรู้สึกเสียวฟันขึ้นมาภายในระยะเวลาไม่กี่วินาทีหลังทานเข้าไป มีความเป็นไปได้ค่ะว่าฟันของเราอาจจะมีปัญหาฟันผุแบบเนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับได้ เมื่อเราทานของหวานเข้าไป น้ำลายในช่องปากจะทำหน้าที่ย่อยสลายน้ำตาลทำให้ได้กรดออกมา กรดเหล่านี้ก็จะแทรกซึมเข้าไปในรอยผุของฟันไปกระตุ้นเส้นประสาทของฟันทำให้เกิดอาการเสียวฟันตามมา

2.เสียวฟันเมื่อทานหรือดื่มของที่มีความเย็น

เป็นเรื่องผิดปกติหากพบอาการเสียวฟันหลังดื่มหรือทานของเย็น ๆ อาการเสียวฟันที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที อาจเป็นไปได้ว่าฟันของเรามีปัญหาฟันผุแบบเนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับได้ หากชั้นเคลือบฟันของเราไม่แข็งแรงหรือมีฟันผุ ความเย็นจะสามารถเข้าไปกระตุ้นเส้นประสาทที่อยู่ด้านในฟันได้โดยตรง จึงทำให้เกิดอาการเสียวฟันตามมานั่นเอง

3.เจ็บปวดแบบแปลบ ๆ เหมือนถูกเข็มแทง

หากมีอาการปวดฟันคล้ายถูกไฟฟ้าลัดวงจรหรือถูกเข็มแทง เป็นลักษณะปวดแปลบ จี๊ด ๆ มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดฟันผุแบบเนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับได้ ซึ่งสามารถรักษาให้ฟันกลับมาเป็นปกติได้หากรีบไปรักษากับทันตแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ

4.อาจจะเจ็บหรือไม่เจ็บเวลาเคาะฟันซี่ที่ผุ

อีกหนึ่งอาการที่บ่งบอกว่ากำลังมีฟันผุถึงโพรงประสาทฟันจะมีอาการเจ็บหรือบางครั้งก็ไม่เจ็บเมื่อเคาะฟันที่ผุ หากเราไม่มีอาการเจ็บเมื่อสัมผัสฟันที่มีปัญหา (แต่พบปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับฟันร่วมด้วย) มีความเป็นไปได้ว่าเรากำลังมีปัญหาฟันผุแบบเนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับได้ ซึ่งสามารถรักษาให้ฟันกลับมาสุขภาพดีได้ แต่ถ้าหากเราลองเคาะฟันที่มีปัญหาแล้วพบว่ามีอาการเจ็บอาจมีความเป็นไปได้ว่าเรากำลังเป็นฟันผุแบบเนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับไม่ได้ ให้รีบปรึกษาหมอฟันโดยด่วน

ตัวอย่างฟันผุ

5.เจ็บปวดอย่างรุนแรง

หากพบว่ามีอาการเจ็บปวดฟันอย่างรุนแรง รู้สึกไม่สบายตัวและรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ควรอดทนนะคะ เพราะมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเป็นฟันผุแบบเนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับไม่ได้

6.เจ็บปวดโดยไม่ต้องมีการกระตุ้น

อยู่ ๆ ฟันก็ปวดขึ้นเองโดยไม่ต้องกระตุ้นใด ๆ มีความเป็นไปได้ว่าเรากำลังเผชิญกับปัญหาฟันผุแบบเนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับไม่ได้ หากพบความเจ็บปวดแบบนี้ ก่อนไปหาหมอฟันให้ลองสังเกตว่าเราปวดที่ตำแหน่งไหน มีการปวดร้าวไปที่ตำแหน่งอื่นหรือไม่ หรือปวดแค่เฉพาะที่ รวมทั้งระยะเวลาที่ปวดเป็นวินาที นาที หรือชั่วโมง 

7.เหงือกบวมรอบ ๆ ฟันที่มีปัญหา

หากกำลังสงสัยว่ากำลังปวดฟันซี่นี้อยู่และพบว่ามีอาการเหงือกบวมร่วมด้วย สิ่งนี้จะเป็นตัวบ่งบอกว่าฟันและบริเวณรอบ ๆ เกิดการอักเสบติดเชื้ออยู่ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่ากำลังมีปัญหาฟันผุแบบเนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับไม่ได้ ซึ่งควรได้รับการดูแลจากหมอฟันโดยด่วน

8.เป็นไข้

หากเรามีอาการปวดฟันตามที่กล่าวมาข้างต้นร่วมกับอาการไข้ด้วยแล้ว นั่นแปลว่าร่างกายเกิดการติดเชื้อจากการที่ฟันผุแบบเนื่อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับไม่ได้ ควรรีบไปพบหมอฟันโดยด่วน เพราะโรคที่เราเป็นอาจจะลุกลามและรุนแรงจึงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต้องตอบสนองด้วยการมีไข้

9.มีกลิ่นปาก

กลิ่นปากเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงโรคหลายชนิด เช่น แผลในช่องปาก ไซนัสอักเสบ ทอนซิลอักเสบ และโรคฟันผุ ถ้าหากมีอาการปวดฟันร่วมกับการกลิ่นปากด้วยแล้ว ถึงจะลองทำความสะอาดฟันเป็นอย่างดีแต่กลิ่นก็ยังไม่หายไปไหน ก็มีความเป็นไปได้ว่าเรากำลังเป็นฟันผุแบบเนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับไม่ได้ ทางที่ดีปรึกษาหมอฟันให้ช่วยหาสาเหตุที่แท้จริงดีกว่านะคะ

10.เจ็บปวดโดยไม่สามารถบอกตำแหน่งได้

สัญญาณสุดท้ายที่บอกว่าเราอาจจะมีปัญหาฟันผุแบบเนื่อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับไม่ได้ก็คือมีความเจ็บปวดเกิดขึ้นในช่องปากแต่ไม่สามารถบอกตำแหน่งที่แน่นอนได้ว่าปวดที่ฟันซี่ไหนกันแน่ การไปหาหมอฟันจะช่วยตอบคำถามได้ว่าสาเหตุของอาการปวดมาจากฟันซี่ไหนกันแน่

จะเห็นได้ว่ามีสัญญาณที่บ่งบอกว่ากำลังมีปัญหาฟันผุถึงโพรงประสาทฟัน อาการเป็นอย่างไร มีสัญญาณมากมายถึง 10 สัญญาณ ซึ่งแต่ละสัญญาณก็จะมีความจำเพาะต่อรูปแบบของการเกิดโรคที่แตกต่างกัน เช่น หากเป็นฟันผุแบบเนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับได้ก็จะมีอาการเสียวฟันเมื่อทานของหวาน ของร้อน และเจ็บปวดแบบแปลบ ๆ จี๊ด ๆ หากเป็นฟันผุแบบเนื้อเยื่อในอักเสบแบบผันกลับไม่ได้ ก็อาจจะพบอาการเจ็บปวดฟันอย่างรุนแรง เจ็บปวดโดยไม่ต้องมีอะไรมากระตุ้น เหงือกบวมหรือเป็นไข้ 

แต่ทั้งนี้คนแต่ละคนเมื่อเป็นโรคเดียวกันแต่อาการที่แสดงออกมาอาจจะแตกต่างกันก็ได้ การไปหาหมอฟันเพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำจึงเป็นเรื่องที่ GoWabi แนะนำมาก ๆ เลยค่ะ นี่เลยยย GoWabi ขอแนะนำดีลตรวจสุขภาพช่องปากจากคลินิกทันตกรรมมาให้เลือกกันอย่างมากมาย คลิกเลย

อ้างอิง

https://www.webmd.com/oral-health/what-is-pulpitis

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ฉีดฟิลเลอร์จมูก

จะฉีดฟิลเลอร์จมูกดีไหม เหมาะกับใคร ต้องรู้อะไรก่อนไปฉีดบ้าง

มีวิธีมากมายที่จะเสริมจมูกให้ดูสวยขึ้นไม่ว่าจะเป็นการศัลยกรรมตกแต่ง การฉีดโบท็อกซ์ปีกจมูก หรือแม้กระทั่งการฉีดฟิลเลอร์จมูก ซึ่งแต่ละวิธีก็มีความโดดเด่นและเหมาะสมในแต่ละเคสแตกต่างกันไป วันนี้พี่สาวชวนมาทำความรู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์จมูก ถึงแม้จะไม่ได้เป็นที่นิยมมากนักแต่ก็มีการถามกันเข้ามาตลอดว่าฉีดฟิลเลอร์จมูกคืออะไร ดียังไง ใครเหมาะที่จะฉีดฟิลเลอร์จมูกบ้างตามไปดูกันเลยค่ะ 

ฉีดฟิลเลอร์ขมับ

หน้าสวยด้วยการฉีดฟิลเลอร์ขมับ คุ้มค่าไหม อันตรายหรือเปล่า

เมื่ออายุมากขึ้นหลาย ๆ คนคงจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้า บริเวณที่เป็นจุดกวนใจอีกจุดหนึ่งเลยก็คือบริเวณขมับ เมื่อเราอายุมากขึ้นบริเวณขมับมีแนวโน้มที่จะยุบตัวลงสูญเสียแผ่นไขมันบริเวณนั้นรวมถึงคอลลาเจนและอิลาสตินก็ลดตัวลงไปด้วย ซึ่งรอยบุ๋มบริเวณขมับนี่แหละ ที่จะทำให้ตีนกาของเราดูเด่นขึ้นแล้วเปลี่ยนรูปทรงของใบหน้าเราให้ดูมีอายุมากขึ้น หลายคนจึงหันมาสนใจการฉีดฟิลเลอร์ขมับ ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ขมับต้องรู้อะไรบ้างตามไปดูกันเลยค่ะ